ยาคุุมเพื่อใช้ลดสิว จะลดประสิทธิภาพของยาฝังคุมกำเนิดหรือไม่?

สวัสดีค่ะ คุณ รังสินี พุ่มโต 

การที่เลือกวิธีในการคุมกำเนิด เป็นการฝังยาคุมกำเนิด (Implantation) สามารถคุมกำเนิดได้นาน 3 หรือ 5 ปี ขึ้นอยู่กับปริมาณยาฮอร์โมนที่บรรจุไว้ค่ะ

โดยที่ฮอร์โมนที่บรรจุในตัวยาฝัง คือ ตัวโปรเจสเตอโรน ค่ะ  ซึ่งจะมีความสามารถในการยับยั้งการตกไข่ เปลี่ยนแปลงมูกปากมดลูกให้เหนียว รวมไปถึงทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางตัวลง ที่เป็นประเด็นหลักที่ทำให้ไม่เหมาะสมต่อการฝังตัวของตัวอ่อนค่ะ 

เนื่องจาก เยื่อบุโพรงมดลูกที่บางลง ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุที่ในตอนแรกที่ใช้อาจมีเลือดออกกระปริบกระปรอยได้บ้าง ต่อมาประจำเดือนจะลดลง สุดท้ายประจำเดือนจะขาดหายไปค่ะ 

ดังนั้น ถ้าต้องการรับประทาน ฮอร์โมนจากภายนอกอย่างอื่น ต้องดูก่อนค่ะว่า เป็นฮอร์โมนตัวไหน เช่น ถ้าเป็นโปรเจสเตอโรน เช่นเดียวก็น่าจะเสริมฤทธิ์มากขึ้น เเต่ถ้าเป็นเอสโตรเจน หรือ เอสโตรเจน ร่วมกับโปรเจสเตอโรน อาจจะทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาขึ้นเล็กน้อย แต่น่าจะไม่กระทบการตั้งครรภ์ เนื่องจากระดับยาฝังยังออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่คาดเดาว่าน่าจะรับประทานเป็นยาคุกำเนิด ที่ประกอบไปด้วยฮอร์โมน 2 ตัว ดังนั้น ประสิทธิภาพน่าจะไม่กระทบค่ะ เเต่อาจต้องระวังเนื่องจากอาจจะเกิดปัญหาเรื่อง เลือดออกกระปริบกระปรอยได้ค่ะ 

ทั้งนี้ การรักษาสิว ต้องดูก่อนค่ะว่าเป็นสิวจากฮอร์โมน หรือไม่ ถ้าเกิดจากการติดเชื้อ การรับประทานยาฆ่าเชื้อจะรักษาได้ดีกว่า การใช้ฮอร์โมนค่ะ ดังนั้น อาจลองปรึกษาเเพทย์ทางผิวหนังให้ลองประเมินลักษณะของสิวที่เกิดขึ้นก่อนค่ะ