ถามแพทย์

  • ช่วงก่อนประจำเดือนมา 4 วัน จะมีน้ำปนเลือดออกมา ประจำเดือนมานาน 8-10 วัน และมีเลือดออกกะปริดกะปรอยหลายวัน เป็นโรคอะไร

  •  NinaNina
    สมาชิก
    เอานิ้วแหย่เข้าไปในช่องคลอดเพื่อเช็คความผิดปกติของปากมดลูก บริเวณปากมดลูกด้านข้างมีก้อนบวมนูนออกมาขนาดใหญ่น่าจะราวๆครึ่งหัวแม่มือ...ช่วงก่อนมีประจำเดือนราวๆ4วัน มักจะมีน้ำออกมาจากช่องคลอดเยอะ เวลายืนแล้วไหลลงมาตามขา ในน้ำนั้นมีเลือดมาผสมจางๆ เป็นแบบนี้มาหลายเดือน....ช่วงแระจำเดือนมาก็มามาก นาน8-10วัน หลายครั้งปวดท้องมาก และรอบไหนที่ปวดท้องมากมักจะมีลิ่มเลือดขนาดใหญ่คล้ายตับหลุดออกมาด้วยเสมอ...ตั้งแต่วันที่เป็นช่วงไข่ตกมักมีเลือดออกกะปริดกะปรอยจางๆติดต่อกันนานหลายวัน...ไม่มีเพศสัมพันธ์มาเกือบ10ปี...อยากทราบคร่าวๆว่า อาการดังกล่าว มีโอกาสเป็นโรคอะไรได้บ้างคะ ขอบคุณค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ NinaNina,

                           การมีเลือดออกเล็กน้อยในช่วง 4 วันก่อนที่จะมีประจำเดือนมา อาจเป็นเลือดที่เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกเริ่มหลุดลอกออกมาก่อนประจำเดือนมาได้ ซึ่งถือว่าไม่ได้ผิดปกติอะไร อย่างไรก็ตาม หากประจำเดือนมานาน 8-10 วัน และมีปริมาณที่มาก รวมถึงมีปวดท้องประจำเดือนมาก อีกทั้งเกิดมีเลือดออกกะปริดกะปรอยในช่วงที่ไม่ได้เป็นประจำเดือนด้วย ก็ถือเป็นอาการเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด โดยสาเหตุ อาจเกิดจาก

                           - มีการตั้งครรภ์ แล้วมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น แต่หากไม่ได้มีเพศสัมพันธ์มานาน 10 ปีแล้ว ก็ไม่น่าใช่สาเหตุ 

                            - มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก

                            - มีโรคที่มดลูก เช่น เนื้องอกมดลูก มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น

                            สำหรับการที่ใช้นิ้วล้วงเข้าไปในช่องคลอด แล้วเจอก้อนนูน อาจเป็นส่วนของปากมดลูกที่ปกติก็ได้ค่ะ หรืออาจเป็นส่วนของมดลูกที่หย่อน หรือเป็นก้อนเนื้องอกบริเวณปากมดลูกก็ได้ แต่พบค่อนข้างน้อย

                             แต่เนื่องจากการที่มีอาการเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด แนะนำว่าควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ