ถามแพทย์

  • อัณฑะบวมหนึ่งข้าง แพทย์แจ้งว่าอัณฑะอักเสบ ได้ยามากินแล้ว เมื่อไรจะหาย ต้องกลับไปพบแพทย์ไหม

  •  Wuttinan
    สมาชิก
    อัณฑะบวม 1 ข้าง ไปพบหมอแล้ว หมอวินิจฉัยว่าอักเสบ ได้ยาปฏิชีวนะและยาลดอักเสบมา ตอนนี้ทานยาครบหมดแล้ว อาการปวดเบาลง แทบไม่มีอาการ อาการบวมยังมีอยู่แต่ดีขึ้น ผ่านมา 3 สัปดาห์ ยังบวมอยู่แต่ดีขึ้นมาก อยากทราบว่าอัณฑะอักเสบจะใช้เวลาประมาณเท่าไรถึงจะกลับมาปกติเหมือนเดิม และควรจะกลับไปพบแพทย์ไหมด้วยต้องสังเกตอาการแบบไหนถึงต้องกลับไปหาหมอครับ
    Wuttinan  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ Wuttinan

     

    อาการอักเสบที่บริเวณอัณฑะ มักเกิดจากการติดเชื้อเช่นกลุ่มเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส ทำให้มีอาการปวดบวมแดงที่อัณฑะ ร่วมกับมีไข้ อาจมีปวดท้อง ปวดตรงขาหนีบ รู้สึกไม่สบายหรืออ่อนเพลีย

     

    การรักษาคือการใช้ยาฆ่าเชื้อหรือยาลดอาการอักเสบภายใต้การดูแลของแพทย์  อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการรักษาอาการกดเจ็บให้หายไป หากอัณฑะอักเสบเกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ แพทย์จะแนะนำให้คู่นอนของผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเช่นเดียวกัน

     

    การดูแลตัวเอง งดการมีเพศสัมพันธ์หรือการช่วยตัวเองไปก่อนจนกว่าอาการจะหายสนิท ไม่ไปบีบหรือจับบริเวณที่ปวดบ่อยๆ กินยาแก้ปวดได้  ควรกลับไปพบแพทย์ถ้ายังมีอาการบวม แดง อยู่ แต่หากอาการหายสนิทดีแล้วก็อาจจะไม่จำเป็น ร่วมกับควรไปตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำทุกปีและควรให้คู่นอนไปตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไปด้วย

    Wuttinan  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ Wuttinan

     

    อาการอักเสบที่บริเวณอัณฑะ มักเกิดจากการติดเชื้อเช่นกลุ่มเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส ทำให้มีอาการปวดบวมแดงที่อัณฑะ ร่วมกับมีไข้ อาจมีปวดท้อง ปวดตรงขาหนีบ รู้สึกไม่สบายหรืออ่อนเพลีย

     

    การรักษาคือการใช้ยาฆ่าเชื้อหรือยาลดอาการอักเสบภายใต้การดูแลของแพทย์  อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการรักษาอาการกดเจ็บให้หายไป หากอัณฑะอักเสบเกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ แพทย์จะแนะนำให้คู่นอนของผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเช่นเดียวกัน

     

    การดูแลตัวเอง งดการมีเพศสัมพันธ์หรือการช่วยตัวเองไปก่อนจนกว่าอาการจะหายสนิท ไม่ไปบีบหรือจับบริเวณที่ปวดบ่อยๆ กินยาแก้ปวดได้  ควรกลับไปพบแพทย์ถ้ายังมีอาการบวม แดง อยู่ แต่หากอาการหายสนิทดีแล้วก็อาจจะไม่จำเป็น ร่วมกับควรไปตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำทุกปีและควรให้คู่นอนไปตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไปด้วย