มีเพศสัมพันธ์ ใส่ถุงยาง หลังจากนั้นมีท้องเสียมา 6 วัน ตอนนี้ปวดท้องมาก ท้องป่อง กดแล้วเจ็บ เป็นอะไร

สวัสดีค่ะ คุณ Tawan Pongsakorn,

                    อาการท้องเสียหรือการมีถ่ายอุจจาระเหลว ไม่ใช่อาการของการตั้งครรภ์แต่อย่างใด อีกทั้งหากได้ตรวจปัสสาวะเพื่อหาการตั้งครรภ์แล้ว และตรวจไม่พบการตั้งครรภ์ ก็ไม่น่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ แต่หากตรวจหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปน้อยกว่า 2 สัปดาห์ อาจตรวจไม่พบได้ แนะนำควรตรวจซ้ำอีกครั้งหากประจำเดือนไม่มาค่ะ

                    สำหรับอาการท้องเสีย หากเป็นยังไม่เกิน 2 สัปดาห์ ถือเป็นอาการท้องเสียแบบเฉียบพลัน ซึ่งมักเกิดจากอาหารเป็นพิษ หรือ ลำไส้อักเสบแบบเฉียบพลับ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อที่มาจากการกินอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคหรือพิษของเชื้อโรค หรือจากมือหรือภาชนะที่ใส่อาหารและน้ำดื่มไม่สะอาด เชื้อโรคส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรียซึ่งมีหลายชนิด 

                    นอกจากจะมีการถ่ายอุจจาระเหลวแล้ว บางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ และปวดท้องบิดๆได้ นอกจากนี้ อาจทำให้เกิดอาการท้องอืดตามมา ท้องจึงป่องได้ ส่วนการกดเจ็บท้อง ก็เป็นอาการที่พบร่วมได้ในผู้ทีมีท้องเสียค่ะ

                   หากอาการเป็นมาหลายวันแล้ว และมีอาการปวดท้องเกร็งมาก แนะนำให้ทานยาปฎิชีวนะฆ่าเชื้อร่วมด้วย เช่น นอร์ฟลอกซาซิน (norfloxacin) เพื่อให้อาการหายเร็วขึ้นค่ะ นอกจากนี้ อาจทานยา dioctahedral smectite เช่น Smecta ซึ่งจะช่วยดูดซับสารพิษ และไปเคลือบผิวเยื่อบุลำไส้ ทำให้เชื้อโรคและสารพิษไม่สามารถสัมผัสกับเยื่อบุลำไส้ได้ อาจช่วยลดอาการท้องเสียลงได้ด้วย แต่ทั้งนี้ต้องไม่แพ้ยาเหล่านี้

                   ส่วนการดูแลด้านอื่นๆ ได้แก่ พยายามดื่มน้ำสะอาดให้มาก และดื่มน้ำเกลือแร่ร่วมด้วย ส่วนอาหาร พยายามเลือกทานอาหารอ่อน อาหารที่ย่อยง่าย รสจืด เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก แกงจืด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ของทอด ของผัด และเนื้อสัตว์ เพราะย่อยยาก และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เพราะจะยิ่งทำให้ถ่ายมากขึ้น  

                  หากยังคงถ่ายอุจจาระบ่อย ปริมาณอุจจาระมาก และไม่สามารถดื่มน้ำชดเชยได้เพียงพอ ซึ่งสังเกตได้จากการมีริมฝีปากแห้ง ผิวแห้ง เบ้าตาลึก หัวใจเต้นเร็ว ปัสสาวะออกน้อย สีเหลืองเข้ม เป็นต้น หรือมีอาการปวดท้องรุนแรงมากขึ้น ก็ควรกลับไปพบแพทย์ค่ะ