ถามแพทย์

  • ท้องผูกและปวดท้อง เกิดจากอะไร ทั้งที่ดื่มน้ำมากและกินผักเป็นประจำ

  •  ANN1234
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ พอดีแฟนมีอาการเจ็บท้องในตอนเช้าที่กระเพาะอาหารและปวดท้องที่ลำไส้ร่วมด้วยตอนที่ไม่ได้ขับถ่าย มีอาการท้องผูก ขับถ่ายยากเป็นระยะเวลา 3 ปี เคยตรวจเช็คด้วยการส่องกล้องที่ลำไส้ใหญ่แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ หมอสรุปคาดว่าเป็นโรคกระเพาะอาหารแต่อาการก็ไม่ดีขึ้น ยังคงมีอาการท้องผูกและปวดท้องอยู่ ทั้งที่แฟนเป็นคนดื่มน้ำมากและทานผักเป็นประจำ อย่างทราบว่าน่าจะเป็นโรคอะไรได้บ้างค่ะ
    ANN1234  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ ANN1234

    อาการขับถ่ายเปลี่ยนแปลง เช่นการมีท้องผูก อาจเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อยหรือดื่มน้ำน้อย สาเหตุอื่นๆเช่นโรคลำไส้อุดตัน มีติ่งเนื้อหรือเนื้องอกในลำไส้ใหญ่ทำให้การขับถ่ายเปลี่ยนแปลง การได้รับยาบางชนิดเช่น ยารักษาอาการชัก ธาตุเหล็ก มีภาวะไทรอยด์ต่ำ ริดสีดวงทวาร ทำให้ถ่ายลำบาก อุจจาระแข็ง อาจมีเลือดปนได้ หรืออาจมีเรื่องของลำไส้แปรปรวน 

    โดยหากมีท้องผูกติดกันหลายวัน อาจทำให้มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อจากอุจจาระที่ค้างอยู่ จนมีอาการปวดท้องตามมาได้

    แนะนำการปรับพฤติกรรมด้วยการรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง ดื่มน้ำมากๆ ฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลาและไม่นั่งถ่ายนานจนเกินไป เน้นรับประทานผัก ผลไม้ และธัญพืช หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่

    แต่หากปรับพฤติกรรมแล้วยังไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์ทางเดินอาหารเพื่อตรวจร่างกายเพิ่มเติมค่ะ หากมีข้อบ่งชี้แพทย์อาจต้องส่องกล้องทางเดินอาหารเพื่อคัดกรองเรื่องของมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยถ้าส่องกล้องลำไส้ใหญ่ไม่พบความผิดปกติ ก็แสดงว่าอาจจะไม่มีก้อนเนื้ออะไรในขนาดนี้ แต่ก็ควรสังเกตอาการค่ะ ถ้ายังมีท้องผูกเรื้อรัง ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจซ้ำอีกครั้ง เพราะเมื่อเวลาผ่านไป อาจจะตรวจพบอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปได้