ถามแพทย์

  • มีปวดท้อง อาเจียน เวียนหัว เป็นประจำหลังกินอาหาร กินยาแก้โรคกระเพาะก็ยังไม่หาย เกิดจากอะไร

  •  panuzaa
    สมาชิก
    มีอาการ ปวดท้อง อาเจียน เวียนหัว เป็นประจำหลังกินอาหาร กินยาแก้โรคกระเพาะก็ยังไม่หาย อยากทราบว่าเกิดจากอะไรคับ

    สวัสดีค่ะ คุณ panuzaa,

                       อาการปวดท้อง อาเจียน เวียนหัว อาจเกิดจาก

                       1.โรคกระเพาะอาหารอักเสบ  จะทำให้มีอาการปวดบริเวณท้องส่วนบน อาจเป็นบริเวณลิ้นปี่ลงไปถึงเหนือสะดือหรือปวดค่อนไปทางด้านซ้าย อาจปวดแบบจุกแน่น หรือแสบร้อน นอกจากนี้อาจมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย อิ่มเร็ว เรอบ่อย คลื่นไส้ อาเจียน  และอาจทำให้มีอาการเวียนหัวร่วมด้วย เป็นต้น

                       2.โรคกรดไหลย้อน อาการจะคล้ายๆ กับกระเพาะอาหารอักเสบ แต่จะมีอาการแสบร้อนกลางอกหรือแน่นหน้าอกร่วมด้วย หรือมีน้ำรสเปรี้ยวหรือขมในคอ หรือเจ็บคอ ระคายเคืองคอ เป็นต้น 

                        3. นิ่วในถุงน้ำดี มักจะทำให้เกิดอาการปวดท้องบริเวณช่องท้องส่วนบนหรือด้านขวา อาการจะเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน ปวดนานแต่ละครั้งอย่างน้อย 30 นาทีถึงหลายๆชั่วโมง และมักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีอาการอื่นๆ เช่น อาหารไม่ย่อย ท้องอืด เป็นต้น 

                         ในเบื้องต้น แนะนำให้ดูแลรักษาแบบโรคกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อนไปก่อน ได้แก่ การเลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย ไม่ทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอดต่างๆ อาหารผัด ไม่ทานอาหารรสจัด ไม่ทานเผ็ด ควรเคี้ยวช้าๆ ให้ละเอียด ไม่ทานและกลืนเร็ว ไม่ทานอาหารครั้งละปริมาณมากเกินไป ไม่ดื่มน้ำอัดลม อัดแก๊สต่างๆ รวมถึงชา กาแฟ โกโก้ แอลกอฮอล์ ห้ามทานยาแก้ปวดในกลุ่ม NSAIDs เช่น แก้ปวดเมื่อย ปวดข้อ เป็นต้น นอกจากนี้ อาจทานยาลดกรด เช่น แรนิทิดีน (ranitidine) ยาโอเมพราโซล (omeprazole) เป็นต้น

                         หากปฏิบัติตัวต่างๆ แล้ว อาการยังไม่หายไป หรือไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ