ฉีดยาคุมแบบเดือนละ 1 ครั้งมา 1 ปี หยุดฉีดยาแล้วประจำเดือนยังไม่มา 2 เดือนแล้ว มีเวียนหัวบ่อย ตรวแล้วไม่ท้อง เกิดจากอะไร

สวัสดีค่ะ คุณ nitta18,

                        การที่ประจำเดือนยังไม่มา อาจเกิดจาก

                        1. การทำงานของรังไข่และการตกไข่ยังไม่เกิดขึ้น โดยปกติเมื่อหยุดฉีดยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (ชนิดที่ฉีดทุก 1 เดือน) การทำงานของรังไข่จะกลับมาเป็นปกติภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่ในบางราย อาจเร็วหรือช้ากว่านี้ได้ ดังนั้น เมื่อการตกไข่ยังไม่เกิดขึ้น จึงยังไม่มีประจำเดือนมา

                        2. ผลจากยาฉีดคุมกำเนิดที่ฉีดต่อเนื่องมานาน อาจทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกฝ่อบางลง ประจำเดือนจึงยังไม่มา ซึ่งการที่เยื่อบุโพรวมดลูกจะกลับมาเป็นปกติ อาจต้องใช้เวลาซักระยะ

                        ดังนั้น แนะนำให้รอประจำเดือนไปก่อนค่ะ หากประจำเดือนยังคงไม่มานานเกิน 6 เดือน จึงควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุอื่นๆ ค่ะ เช่น มีภาวะที่มีถุงน้ำในรังไข่หลายใบ มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนเป็นพิษ มีพังผืดในมดลูก เป็นต้น

                        สำหรับอาการเวียนหัวบ่อย เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ร่างกายขาดน้ำ มีภาวะโลหิตจาง มีความเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่หลับ เป็นต้น หรือหากมีอาการเวียนหัวแบบบ้านหมุน อาจเกิดจากมีหูชั้นในอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน (BPPV) โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน  (Meniere's Disease) เป็นต้น

                     แนะนำในเบื้องต้นควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด ดื่มน้ำเยอะๆ เปลี่ยนท่าเวลานั่งหรือนอนช้าๆ หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และคาเฟอีน เป็นต้น หากมีอาการเวียนหัวมาก อาจลองทานยาแก้เวียนหัว เช่น dimenhydrinate (ไดเมนไฮดริเนต), betahistine (เบต้าฮีสทีน), cinnarizine (ซินนาริซีน) เป็นต้น หากอาการยังไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ