ถามแพทย์

  • ไปใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิดมา แล้วมีอาการเจ็บคอมาก ไข้สูง ปวดหัว ไปตรวจ PCR ไม่พบเชื้อ เป็นอะไร

  •  nkkcin
    สมาชิก
    สวัสดีครับ พอดีว่าผมเป็นผู้ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อมา วันที่13 วันที่17ไปตรวจrt-pcrที่โรงพยาบาล เริ่มมีอาการเจ็บคอนิดหน่อย วันที่18ตอนเย็นเริ่มมีไข้อ่อนๆ วันที่19เป็นต้นมามีอาการเจ็บคอมาก และมีไข้สูง ปวดหัวด้วย แต่วันที่21ไปตรวจrt-pcrอีกครั้ง รพ.แจ้งว่าไม่พบเชื้อ อยากสอบถามว่า อาการที่ผมเป็นเกิดจากอะไรได้บ้าง ที่เดาไว้คือ1.อาการข้างเคียงจากต่อมทอนซิลอักเสบ 2.ติดเชื้อโควิด

    สวัสดีค่ะ คุณ nkkcin,

                     หากได้ไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 ด้วยวิธี PCR ทั้งในวันที่ 17 และ 21 ธ.ค. แล้วตรวจไม่พบเชื้อ ซึ่งตรวจในขณะที่มีอาการแล้ว ก็แสดงว่าไม่ได้เป็นโรคโควิด 19 ค่ะ ดังนั้น อาการเจ็บคอมาก มีไข้ ปวดหัว จึงน่าจะเกิดจาก

                      1. คอหอยอักเสบ (pharyngitis) ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดไข้หวัด อาการคือจะมีไข้ ไอ มีเสมหะ เจ็บคอ เสียงแหบ จาม มีน้ำมูก คัดจมูก ตาแดง ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว

                   มีประมาณ 10-15% ที่คออักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งมักจะมีไข้สูง หนาวสั่น ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว คลื่นไส้วิงเวียน คอแดง เจ็บคอมาก กลืนลำบาก มีจุดหรือแผ่นสีขาวหรือสีเทาบริเวณลำคอ ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอบวมโต 

                  2. ทอนซิลอักเสบ (tonsillitis) ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสเช่นกัน อีกประมาณ 15-20% เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย โดยหากเกิดจากเชื้อไวรัส จะมีอาการของไข้หวัดร่วมด้วย แต่หากเป็นทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย จะมีอาการเจ็บคอมากจนกลืนน้ำและอาหารได้ลำบาก มีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร มีกลิ่นปาก อาจตรวจพบต่อมน้ำเหลืองที่ข้างคอด้านหน้าโต ต่อมทอนซิลทั้งสองข้างจะบวมโต สีแดงจัด และมักมีแผ่นหนองอยู่บนทอนซิล มักไม่มีอาการของไข้หวัด

                    ดังนั้น หากมีอาการไข้สูง เจ็บคอมาก โดยที่ไม่มีอาการของไข้หวัด ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัส คือไม่มีจาม ไม่มีน้ำมูก ไมไอ เป็นต้น ก็น่าจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แนะนำควรไปพบพบแพทย์เพื่อรับยาปฏิชีวนะทานค่ะ เพราะหากไม่ได้รับยาปฏิชีวนะรักษา อาจมีภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ เช่น หูชั้นกลางอักเสบ จมูกอักเสบ ไซนัสอักเสบ ปอดอักเสบ ฝีที่ทอนซิล เชื้ออาจเข้าสู่กระแสเลือดแล้วแพร่กระจายไปยังส่วนต่าง ๆ ทำให้เป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ข้ออักเสบชนิดติดเชื้อ เป็นต้น หรืออาจกลายเป็นไข้รูมาติกได้

                     ส่วนการดูแลตนเองในเบื้องต้นได้แก่ การดื่มน้ำเปล่ามากๆ โดยควรดื่มน้ำที่อุณหภูมิห้อง หรือน้ำอุ่น งดน้ำเย็น พักผ่อนเยอะๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะผักและผลไม้ ทานอาหารอ่อน ๆ รสจืด งดใช้เสียงมาก งดการสูบบุหรี่ หรืออยู่ในที่มีควันบุหรี่ หรือควันต่างๆ งดดื่มแอลกอฮอล์ บ้วนปากล้างลำคอด้วยน้ำเกลือบ่อยๆ ทานยาลดไข้แก้ปวด เช่น พาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน เป็นต้น