ถามแพทย์

  • หยุดทานยาปรับฮอร์โมน แล้วไม่มีประจำเดือนมา จึงกินยาคุมกำเนิด ได้มีประจำเดือนมา แล้วมีตกขาวปนเลือดออกมา จะท้องไหม

  •  summer
    สมาชิก
    เป็นคนประจำเดือนมาไม่ปกติหมอให้กินยาปรับฮอร์โมนมา 6 เดือน หยุดใช้ยาไป1 เดือนแล้วประจำเดือนไม่มา มีเพศสัมพันธ์แบบป้องกันในช่วงที่หยุดยาด้วยค่ะ หลังจากนั้นเลยเริ่มกลับมากินยาคุม(ช่วงนี้ก็มีเพศสัมพันธ์แบบป้องกันเหมือนกัน)แล้วประจำเดือนมาปกติ แต่ตอนนี้หลังจากมีประจำเดือนมีเหมือนตกขาวปนเลือดสีน้ำตาลมาประมาณเกือบ1อาทิตย์แล้วค่ะ จะท้องมั้ยคะ หรือว่าอันนี้อาการอะไรหรอคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ summer,

                         หลังจากหยุดทานยาปรับฮอร์โมน ประจำเดือนไม่มา แต่เมื่อเริ่มทานยาคุมกำเนิดไป เมื่อทานยาคุมจนหมดแผงแล้ว ได้มีประจำเดือนมา โดยมาในช่วงที่เว้นระยะการทานยาคุม 7 วัน (สำหรับยาคุมชนิด 21 เม็ด) หรือมาในช่วงที่ทานยาคุมที่เป็นเม็ดแป้ง (สำหรับยาคุมชนิด 28 เม็ด) ก็ถือว่าปกติดี และแสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นจากการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงก่อนหน้านั้นค่ะ

                         และเมื่อทานยาคุมกำเนิดหมดแล้ว ได้เริ่มทานยาคุมแผงใหม่ต่อเลย แต่ได้มีตกขาวปนเลือดสีน้ำตาลออกมา เลือดดังกล่าวก็น่าจะเกิดจากผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดได้ค่ะ ไม่ได้อันตรายอะไร แนะนำควรสังเกตอาการต่อไปก่อน ในที่สุดเลือดก็น่าจะหยุดไหลไปได้เองค่ะ แต่หากเลือดยังคงออกตลอด และมีปริมาณมากขึ้น ก็อาจต้องหยุดทานยาคุมกำเนิดไปก่อน แล้วสังเกตอาการอีกครั้ง หากยังคงมีเลือดออกต่ออีก ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาค่ะ