ถามแพทย์

  • อายุ 14 ปี อุจจาระเป็นเส้นเล็กๆ จะเป็นมะเร็งลำไส้ไหม

  •  Nueachai Wijitsophon
    สมาชิก
    ผมเป็นโรคท้องผูกมานานแล้ว ตอนนี้อุจจาระเล็กลงจากปกติมากๆ จะมีโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ไหมครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ Nueachai Wijitsophon,

                      ขนาดของอุจจาระ รูปร่าง ปริมาณ สี และความแข็งหรือนิ่มของอุจจาระ จะแตกต่างกันไปในแต่ละคน และคนๆ เดียวกัน ก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละวัน นอกจากจะอยู่กับปริมาณอาหารที่ทานแล้ว ยังขึ้นกับชนิดและลักษณะของอาหาร รวมถึงปริมาณน้ำที่ทานในแต่ละวัน และยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น การทานยาบางชนิด การเคลื่อนไหวของร่างกาย การออกกำลังกาย ความเครียด เป็นต้น

                    ดังนั้น การที่อุจจาระมีขนาดเล็กลง อาจเนื่องจากการทานอาหารที่มีกากใยน้อย ดื่มน้ำน้อย ดังนั้น ในเบื้องต้นควรพยายามดื่มน้ำเยอะๆ โดยเป็นน้ำเปล่า ให้ได้อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว ทานอาหารที่มีกากใยสูง ซึ่งก็คือผักและผลไม้ต่างๆ หรืออาจทานไฟเบอร์ช่วยเสริมร่วมด้วย นอกจากนี้ควรหาเวลาออกกำลังกาย เพื่อให้ลำไส้เคลื่อนไหว ช่วยในการขับถ่ายค่ะ

                     สำหรับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ นอกจากจะมีก้อนอุจจาระเป็นลำเล็กๆ แล้ว อาการที่สำคัญที่มักพบร่วมด้วย ได้แก่ การถ่ายอุจจาระเป็นเลือด หรือเป็นมูกเลือด รู้สึกถ่ายไม่สุด ปวดท้องเรื้อรัง เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (5% ใน 3 เดือน)

                      นอกจากนี้ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มักพบในคนอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป หรือหากพบในอายุน้อย มักมีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก หรือมีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น เป็นมะเร็งชนิดอื่นๆ อยู่ มีติ่งเนื้อในลำไส้ เป็นต้น ดังนั้นหากไม่มีประวัติโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในครอบครัว และไม่มีอาการต่างๆ ที่กล่าวไป โอกาสที่จะเป็นก็น้อยมากค่ะ

                       สำหรับอาการท้องผูก ไม่ควรปล่อยให้เป็นเรื้อรัง เพราะหากเป็นรุนแรง อุจจาระก็จะออกมาได้ยากขึ้นและอุจจาระจะค่อยๆ ออกน้อยลง จนอาจถึงขึ้นทำให้เกิดลำไส้อุดตันและแตกทะลุได้

                       ดังนั้น ควรปฏิบัติดังที่กล่าวไป หากอุจจาระยังคงแห้ง แข็ง เป็นก้อนเล็กๆ หรือไม่ถ่ายอุจจาระนานเกิน 3 วัน ควรหายาระบายช่วย ซึ่งมีหลายชนิด เช่น ยาดัลโคแลค (Dulcolax) ยาบิซาโคดิล (Bisacodyl) ยาเซนโนไซด์ (Sennosides) ยาแมกนิเซียม ไฮดรอกไซด์ (Magnesium Hydroxide)  ยาแลคตูโลส (Lactulose) เป็นต้

                       แต่หากยังคงมีอาการท้องผูกอยู่ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษา เนื่องจากอาจเกิดจากโรคบางอย่างได้ เช่น เนื้องอกในลำไส้ใหญ่ เป็นต้น