อายุ 14 ปี ถ้าเป็นอีสุกอีใส พอหายแล้ว สามารถไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสได้ไหมคะ

สวัสดีค่ะ คุณ Waraporn Buacham,

                 หากได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์แล้วว่าเป็นโรคอีสุกอีใส ส่วนใหญ่เมื่อเป็นแล้วจะมีภูมิต้านทานต่อเชื้อไปตลอดชีวิตค่ะ และมักจะไม่กลับเป็นซ้ำอีก ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนค่ะ แต่ก็มีส่วนน้อยมากที่พบว่าสามารถเป็นซ้ำอีกได้ แต่การฉีดวัคซีนก็ไม่ได้ช่วยป้องกันการกลับเป็นซ้ำค่ะ

              นอกจากนี้ในผู้ไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน และได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสไปแล้ว ก็มีโอกาสเป็นโรคได้ค่ะ เนื่องจากวัคซีนจะป้องกันได้ประมาณ 90% แต่หากเป็นอาการมักไม่รุนแรงและหายเร็วกว่าคนที่ไม่ฉีดวัคซีนค่ะ

              หากเคยเป็นอีสุกอีใสมาแล้ว โรคที่มีโอกาสกลับเป็นซ้ำได้หลายครั้งจากเชื้อชนิดนี้ คือ งูสวัด ค่ะ ซึ่งเป็นการกำเริบของของเชื้อไวรัสอีสุกอีใสที่แฝงตัวอยู่ในร่างกายเรา โดยผื่นของงูสวัสจะเป็นเพียงเฉพาะที่ตามแนวของเส้นประสาทที่ผิวหนัง ไม่ได้เป็นทั่วตัวแบบอีสุกอีใส โดยจะมีอาการปวดและแสบร้อนบริเวณที่เป็นร่วมด้วย

         ผื่นจะคล้ายกับอีสุกอีใสคือจะเป็นตุ่มน้ำใส ผิวหนังรอบๆ ตุ่นจะบวมแดง ตุ่มน้ำจะค่อยๆ ตกสะเก็ดและแห้งไปภายใน 2 สัปดาห์ แต่อาจหลงเหลืออาการปวดหรืออาการเสียวบริเวณที่เป็นอยู่ได้นานหลายเดือน ในบางรายที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำ เชื้ออาจเข้ากระแสเลือด และทำให้เกิดไข้สมองอักเสบได้ 

          ดังนั้นวัคซีนที่ควรฉีดในคนที่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาแล้ว คือวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด ซึ่งจะแนะนำให้ฉีดในผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป หรือมีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่นโรคไตเรื้อรัง หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง โดยการฉีด 1 เข็มจะป้องกันได้ประมาณ 10 ปี