ปวดท้องน้อย หมอบอกอาจเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบหรืออุ้งเชิงกรานอักเสบ กินยาแล้วไม่หาย เป็นอะไรได้อีก

สวัสดีค่ะ คุณ ชิติวัชญ์ โฆรวิส,

                     อาการปวดบริเวณท้องน้อย แบ่งออกเป็น

                   1.บริเวณด้านขวาล่าง สาเหตุได้แก่

                             - ไส้ติ่งอักเสบ แต่ก็จะต้องได้รับการผ่าตัด ไม่ใช่ได้แต่เฉพาะแค่ยาฉีดหรือทาน

                             - ลำไส้ส่วนที่อยู่ช่องท้องด้านขวาล่างอักเสบ แต่ก็จะมีท้องเสียร่วมด้วย

                             - ปีกมดลูกด้านขวาอักเสบ (ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการมีภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ) 

                             - มีซีสต์ในรังไข่หรือปีกมดลูกด้านขวา เป็นเนื้องอกของรังไข่หรือปีกมดลูกด้านขวา 

                    2. บริเวณด้านซ้ายล่าง สาเหตุได้แก่

                             - ลำไส้ส่วนที่อยู่ช่องท้องด้านซ้ายล่างอักเสบ

                             - ปีกมดลูกด้านซ้ายอักเสบ (ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการมีภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ) 

                              - มีซีสต์ในรังไข่หรือปีกมดลูกด้านซ้าย เป็นเนื้องอกของรังไข่หรือปีกมดลูกด้านซ้าย เป็นต้น

                     3. บริเวณเหนือหัวเหน่า สาเหตุได้แก่

                             - กระเพาะปัสสาวะอักเสบ

                             - มดลูกอักเสบ (ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการมีภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ) 

                             - ก้อนเนื้องอกมดลูก 

                            หากได้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลและได้ทำการตรวจแล้ว รวมถึงได้ให้นอนรักษาตัว ก็น่าจะเป็นอุ้งเชิงกรานอักเสบดังที่แพทย์วินิจฉัยไป ไม่น่าเป็นโรคอื่นๆ ที่กล่าวไป และไม่น่าเป็นกระเพาะปัสสาะอักเสบ เพราะหากได้ทานยาหรือฉีดยาแล้ว ก็น่าจะหายไปในเวลาไม่นาน แต่ในกรณีที่เป็นอุ้งเชิงกรานอักเสบ อาจดื้อต่อยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาได้ ซึ่งในบางราย อาจต้องได้รับการฉีดยาฆ่าเชื้อต่อเนื่อง รวมถึงทานยานานหลายสัปดาห์ ดังนั้น หากทานยาจนครบแล้ว อาการยังไม่ดีขึ้น ก็ควรกลับไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาต่อไปค่ะ

                         ทั้งนี้ หากเป็นอุ้งเชิงกรานอักเสบ ก็อาจมีผลทำให้เกิดเลือดออกกะปริดกะปรอย ประจำเดือนมาผิดปกติ มาน้อยลง หรือขาดหายไปก็ได้ค่ะ