ถามแพทย์

  • มีอัณฑะปวด บวม เข้ารับการรักษาแล้ว แต่อัณฑะยังบวมอยู่ ควรทำอย่างไร

  •  ongza34
    สมาชิก
    ผมมีอาการปวดอัณฑะข้างซ้ายอย่างรุนแรง และ ทัองน้อยข้างซ้าย หน่วงๆ มีไข้ขึ้นสูง เจ็บจนทนไม่ไหวเลยไปโรงพยาบาล หมอทำการตรวจด้วยเครื่อง อันตร้าซาวแต่ไม่เจอสิ่งผิดปกติอะไร ผลตรวจเลือดและปัสสาวะ หมอบอกว่าติดเชื้อ หลังจากนั้นหมอให้ (IV)2gm CefTRIAXone lnjectlon 1g Vlal ติดต่อกัน7วัน พอครบกำหนด7วัน เจาะเลือดตรวจ ผลเลือดคือปกติ แต่ทำไมลูกอัณฑะผมยังคงบวม/แข็ง แต่อาการปวดลดลง เป็นเพราะอะไรครับ
    ongza34  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณongza34

    อาการอัณฑะปวด บวม แข็งดังกล่าวมา อาจจะเกิดจากอัณฑะอักเสบจากการติดเชื้อ โดยอาจเป็นเชื้อที่เกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ อาการมักมาด้วยปวดบวมแดงที่อัณฑะ ร่วมกับมีไข้ อาจมีปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียนร่วมได้ สาเหตุอื่นๆเช่น ท่อเก็บเชื้ออสุจิอักเสบ อาการปวดจะมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป มากขึ้นเรื่อยๆ อาจมีปัสสาวะแสบหรือมีของเหลวไหลออกมาจากบริเวณอวัยวะเพศ  อัณฑะบิวขั้ว มักปวดทันทีทันใด พบมากในเด็กแรกเกิดและชายหลังเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์

    โดยหากปวดท้องหน่วงๆ มีไข้ด้วย อาจต้องนึกถึงกลุ่มการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งหลังได้รับยาฆ่าเชื้อมาแล้ว อาการยังไม่ดีขึ้น ยังคงปวดท้อง ปวดที่อัณฑะเยอะ ควรกลับไปพบแพทย์ที่ดูแลเพื่อตรวจเพิ่มเติมอีกครั้ง ว่ามีการวินิจฉัยอื่นที่เป็นไปได้หรือไม่ หรือต้องได้รับยาฆ่าเชื้อที่ครอบคลุมโรคได้มากขึ้นหรือเปล่า ในระหว่างนี้งดการทำกิจกรรมทางเพศ ไม่ไปบีบหรือจับบริเวณอัณฑะบ่อยๆ กินยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้