มีอาการเจ็บคอมาก ก่อนหน้านั้นมีไข้ เสมหะ เป็นมา 2-3 วัน เเต่ได้กินยาฆ่าเชื้อแล้ว แต่ยังไม่ดีขึ้น

สวัสดีค่ะ คุณ Chawakorn Parnkorrakoch,

                 อาการเจ็บคอ อาจเกิดจาก 

                1. คอหอยอักเสบ (pharyngitis) มักเป็นผลจากการที่กำลังเป็นโรคไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่อยู่ ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัส อาการคือจะมีไข้ ไอ มีเสมหะ เจ็บคอ เสียงแหบ จาม มีน้ำมูก คัดจมูก ตาแดง ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว

                   มีประมาณ 10-15% ที่คออักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งมักจะมีไข้สูง หนาวสั่น ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว คลื่นไส้วิงเวียน คอแดง เจ็บคอ กลืนลำบาก มีจุดหรือแผ่นสีขาวหรือสีเทาบริเวณลำคอ ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอบวมโต

                2.  ทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) สาเหตุส่วนใหญ่ประมาณ 70%-80% เกิดจากเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือเชื้อไวรัสอื่นๆ อีกประมาณ 15%-20% เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย โดยหากเกิดจากเชื้อไวรัส จะมีอาการของไข้หวัดด้วย หากเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย จะมีอาการเจ็บคอมากจนกลืนน้ำและอาหารได้ลำบาก มีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร มีกลิ่นปาก อาจตรวจพบต่อมน้ำเหลืองที่ข้างคอด้านหน้าโต ต่อมทอนซิลทั้งสองข้างจะบวมโต สีแดงจัด อาจเห็นแผ่นหนองขาว ๆ เหลือง ๆ ติดอยู่บนทอนซิล และจะไม่มีอาการของไข้หวัด

                    ดังนั้น หากมีอาการไข้ ร่วมกับเจ็บคอมาก และไม่ได้มีอาการมีน้ำมูก จาม คันคอ ไอ ก็น่าจะเกิดจากแบคทีเรียมากกว่าไวรัส

                   การดูแลตนเองในเบื้องต้น ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใด ได้แก่ การดื่มน้ำเปล่ามากๆ โดยควรดื่มน้ำที่อุณหภูมิห้อง หรือน้ำอุ่น งดน้ำเย็น พักผ่อนเยอะๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะผักและผลไม้ ทานอาหารอ่อน ๆ รสจืด งดใช้เสียงมาก งดการสูบบุหรี่ หรืออยู่ในที่มีควันบุหรี่ หรือควันต่างๆ งดดื่มแอลกอฮอล์ บ้วนปากล้างลำคอด้วยน้ำเกลือบ่อยๆ เป็นต้น

                   สำหรับยาปฏิชีวนะนั้น ควรพบแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อพิจารณาจ่ายยาปฏิชีวนะที่เหมาะสมให้ทาน ไม่ควรเลือกชนิดยาทานยา เพราะอาจไม่ตรงกับโรคได้ค่ะ