ถามแพทย์

  • อวัยวะเพศหญิงบวมแดงมีตุ่มขึ้นมา เจ็บมาก เป็นมา 2-3 วัน ไม่เคยมเีพศสัมพันธ์

  •  Sunday Mood
    สมาชิก
    หนูเจ็บตอนช่วงเปนประจำเดือนค่ะไม่แน่ใจว่าแพ้ผ้าอนามัยไหมแต่ตรงอวัยวะเพศมีบวมแดงค่ะมีตุ่มขึ่นมาเวลาเดินจะเจ็บมากๆค่ะเดินแทบไม่ได้นอนตะแคงก้ไม่ได้เลยค่ะต้องค่อยๆเพราะมันเจ้บเจ้บบริเวณฝั่งขวาค่ะเป็นได้ประมาณ2-3วัน ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณผู้ใช้งาน,

                        อาการมีตุ่มบวมแดงขึ้นที่อวัยวะเพศด้านนอก ร่วมกับอาการเจ็บมาก ไม่น่าใช่ลักษณะของการแพ้หรือระคายเคืองจากสารเคมีต่างๆ รวมถึงผ้าอนามัย แต่อาจเกิดจากสาเหตุ เช่น

                        - เป็นฝีของเนื้อเยื่อ ซึ่งเกิดจากการอักเสบติดเชื้อ โดยอาจเกิดจากการที่ไปเกา โดนแมลงกัด หรืออวัยะวะเพศไปเสียดสีโดนอะไรบางอย่างจนเกิดบาดแผลเล็กๆ ขึ้น แล้วเกิดการอักเสบติดเชื้อตามมา

                       - เป็นฝีที่เกิดจากถุงน้ำของต่อมบาร์โธลินอักเสบ ซึ่งต่อมบาร์โธลิน (Bartholin's gland) เป็นต่อมขนาดเล็กที่อยู่ตรงแคมทั้ง 2 ข้าง มีหน้าที่ผลิตเมือก เพื่อช่วยในการหล่อลื่นขณะมีเพศสัมพันธ์ โดยจะมีท่อมาเปิดออกที่บริเวณใกล้ปากช่องคลอด หากท่อของต่อมมีการอุดตัน จะทำให้เมือกที่สร้างจากต่อมสะสมอยู่ในต่อมมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นก้อนถุงน้ำได้ ซึ่งจะทำให้คลำได้เป็นก้อน ตรงบริเวณแคมใหญ่ติดกับปากช่องคลอด  โดยปกติถุงน้ำนี้จะไม่ทำให้เจ็บ  แต่หากถุงน้ำของต่อมบาร์โธลินนี้เกิดการอักเสบติดเชื้อ ก็จะทำให้มีอาการเจ็บและปวด และอาจกลายเป็นฝีหนองได้ 

                        หากมีอาการเจ็บมากจนเดินได้ลำบาก แนะนำควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อรักษาค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นฝีของเนื้อเยื่อหรือเป็นฝีของต่อมบาร์โธลิน ก็ต้องรักษาโดยการผ่าระบายเอาหนองออกค่ะ หากปล่อยไว้ ก็อาจลุกลามมากขึ้นได้ ในเบื้องต้น อาจทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล เป็นต้น การนั่งแช่ในน้ำอุ่น ก็อาจช่วยบรรเทาอาการปวดลงได้ และไม่ควรไปแกะ บีบตุ่มที่เป็นอยู่ค่ะ