มีเพศสัมพันธ์แล้วมีอาการคันและเจ็บบริเวณปากช่องคลอด จะติดเชื้อไหม

สวัสดีค่ะ คุณ PipAtpon Kusa,

                    อาการคันและเจ็บช่องคลอด หากเกิดขึ้นภายใน 1 วันหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ ไม่น่าเกิดจากฏรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส เป็นต้น แต่อาจเกิดจาก

                    1. มีการฉีกขาดของเยื่อบุช่องคลอดเล็กน้อย จากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง ท่าทางที่พิสดาร หรือมีการใช้สิ่งของสอดใส่ในช่องคลอด จึงทำให้เกิดอาการเจ็บๆ คันๆ หลังจากมีเพศสัมพันธ์ได้ และอาจมีเลือดซึมได้

                    2. การแพ้ระคายเคือง เช่น แพ้ถุงยางอนามัย เจลหล่อลื่น เป็นต้น

                    3. มีการติดเชื้อราในช่องคลอด ทั้งนี้ การติดเชื้อราไม่จำเป็นต้องเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยอาจเกิดจากความอับชื้นภายในช่องคลอด หรือมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน แต่ทั้งนี้มักจะมีตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย คือมีตกขาวปริมาณมาก มีลักษณะคล้ายแป้งเปียก หรืออวัยวะเพศภายนอกเกิดมีผื่นแดงนูนหรือผิวแดงลอกให้เห็น

                     4. การติดเชื้อปรสิตในช่องคลอด ซึ่งเกิดจากการการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ แต่จะมีตกขาวที่ผิดปกติร่วม คือมีตกขาวปริมาณมาก มีสีแปลกไป เช่น เขียว เทาหรือมีฟอง มีกลิ่นเหม็น เป็นต้น

                     5. โรคเริม ทั้งนี้ หากเคยเป็นมาก่อนแล้ว การเป็นเริมในครั้งต่อๆไป จะไม่ได้เกี่ยงข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ แต่จะเกิดเมื่อร่างกายอ่อนแอ ทั้งนี้ จะเห็นตุ่มน้ำใสหรือแผลที่อวัยวะเพศภายนอกร่วมด้วย

                     ดังนั้น หากไม่ได้มีอาการอื่นๆ คือตกขาวที่ผิดปกติ มีผื่นหรือแผลที่อวัยวะเพศภายนอก ก็ให้สังเกตอาการไปก่อนได้ แต่หากมีอาการดังกล่าวก็ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจค่ะ