ปัสสาวะแล้วเจ็บที่อวัยวะเพศ ปวดแสบปวดร้อน ไม่มีเลือด ไม่มีตกขาว เป็นโรคอะไร

สวัสดีค่ะ 

                   อาการปัสสาวะแล้วเจ็บ ปวดแสบปวดร้อน อาจเกิดจากสาเหตุ

                   1. การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง ซึ่งอาจมีอาการอื่นๆ อีก เช่น ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะไม่สุด เป็นต้น โดยสาเหตุของเชื้อ แบ่งเป็น

                     - เชื้อแบคทีเรียชนิดต่างๆ มักเกิดตามหลังการกลั้นปัสสาวะหรือดื่มน้ำน้อย รวมถึงหลังการมีเพศสัมพันธ์ พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 

                     - เชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม ซึ่งนอกจากอาการปัสสาวะที่ผิดปกติแล้ว จะมีตกขาวที่ผิดปกติ และอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย รวมถึงอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ หรืออาจเกิดจากโรคเริม ซึ่งจะพบตุ่มน้ำหรือแผลที่อวัยวะเพศ และมีอาการเจ็บ ปวดแสบปวดร้อน

                    2. ติดเชื้อราในช่องคลอด แต่นอกจากอาการเจ็บแสบแล้ว มักมีอาการคัน และตกขาวปริมาณมากร่วมด้วย

                     3. เยื่อบุช่องคลอดฉีกขาด จากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง อาจทำให้รู้สึกเจ็บแสบเวลาปัสสาวะได้

                     4. ช่องคลอดแห้ง แต่จะพบในหญิงวัยหมดประจำเดือน

                   ในเบื้องต้นแนะนำให้ดื่มน้ำเปล่ามากๆ หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ หรือแอลกอฮอล์ ไม่กลั้นปัสสาวะ และควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนชั่วคราว หากอาการไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ