ถามแพทย์

  • เป็นตุ่มแดงที่บริเวณอวัยวะเพศชายหลังมีเพศสัมพันธ์แบบใส่ถุงยางอนามัย ไปตรวจโรคต่างๆก็ยังไม่พบ เกิดจากอะไร

  •  Chiradet Kho
    สมาชิก
    คือไปมีอะไรกับคนอื่นมา แต่ใช้ถุงป้องกันตลอด หลังจากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์พบตุ่มแดงที่บริเวณอวัยวะเพศครับ หลังจากนั้นไปตาวจ ร่างกาย ทั้ง HIV ซิฟิเลส และ ไวรัสเอดส์ ก็ไม่พบ ครับ
    Chiradet Kho  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ Chiradet Kho

    การมีเพศสัมพันธ์ ถ้าได้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันเอาไว้ตลอด ไม่มีการสัมผัสกันโดยตรงของเยื่อบุอวัยวะเพศหรือเยื่อบุปากเลยนั้น โอกาสรับเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีได้น้อยมาก

    ตุ่มแดงที่อวัยวะเพศชายนั้น เป็นอาการที่ไม่ได้จำเพาะเจาะจงต่อการเกิดโรค HIV แต่อย่างใด อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุเช่นการเสียดสี การระคาย การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆที่อาจมีอยู่ก่อนแล้ว เช่นเริม หูดหงอนไก่ หนองใน หรือเป็นรูขุมขนอักเสบ การติดเชื้อรา/เชื้อแบคทีเรีย ถ้าตุ่มยังเป็นเรื้อรัง ไม่หายไป ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบอีกครั้ง

    โดยหากผลตรวจเลือดเป็นลบ และยังไม่สบายใจ อาจจะไปยืนยันอีกครั้งที่ 3 เดือนหลังมีความเสี่ยง ซึ่งจะให้ผลที่แน่นอนได้มากขึ้น ในระหว่างนี้ถ้าจะมีเพศสัมพันธ์ ต้องใส่ถุงยางอนามัยป้องกันการแพร่เชื้อและรับเชื้อใหม่เอาไว้ทุกครั้งค่ะ