ถามแพทย์

  • มีตุ่มแดงที่อวัยวะเพศชาย หลังมีเพศสัมพันธ์ ฝ่ายหญิงมีตกขาวมีกลิ่น กินยาไม่หาย เป็นอะไร

  •  ling22
    สมาชิก
    ขึ้นที่อวัยวะเพศมีอะไรกับแฟนทำให้แฟนเป็นตกขาวมีกลิ่นเหมือนคาวปลาไปรักษาแล้วได้ยาฆ่าเชื้อมากินก็ไม่หายแบบเป็นโรคอะไรครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ ling22,

                           การที่ผู้หญิงมีตกขาวที่มีกลิ่นเหม็นเหมือนคาวปลา โดยที่ไม่มีอาการคันหรือแสบช่องคลอด ไม่มีปวดท้องน้อย ก็น่าจะเกิดจากมีการอักเสบของช่องคลอดจากเชื้อแบคทีเรีย (bacterial vaginosis) ซึ่งปัจจัยที่อาจทำให้เกิด ได้แก่ ช่องคลอดมีความเป็นด่างจากการโดนหลั่งน้ำอสุจิบ่อยๆ หรือจากการสวนล้างช่องคลอดบ่อยไป หรือใช้สบู่หรือน้ำยาที่มีความรุนแรง หรือเกิดจากการทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อบ่อยๆ การมีเพศสัมพันธ์มากกว่า 1 คน หรือมีการเปลี่ยนคู่นอน แต่ไม่จัดเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะฝ่ายชายจะไม่ได้ติดเชื้อชนิดนี้ไปด้วย

                         สำหรับการรักษา ก็คือควรหลีกเลี่ยงปัจจัยในการเกิดดังกล่าว แต่หากอาการเป็นมาก คือมีตกขาวมากและกลิ่นรุนแรง ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรับยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อทาน เช่น เมโทรนิดาโซล (metronidazole), คลินดามัยซิน (clindamycin) เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อทานยา อาการก็จะหายไปได้ แต่ก็สามารถกลับมาเป็นได้อีก เมื่อมีปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้นค่ะ

                        แต่นอกจากนี้แล้ว ตกขาวที่มีกลิ่นเหม็น ก็อาจเกิดจากการติดเชื้อหนองใน มีมดลูกอักเสบ ก็ได้ หรืออาจเกิดจากมะเร็งปากมดลูกก็ได้ ดังนั้น หากทานยาแล้ว อาการไม่หาย ก็ต้องกลับไปพบแพทย์อีกครั้งค่ะ

                       สำหรับตุ่มแดง ที่ขึ้นที่อวัยวะเพศชาย อาจเกิดจาก

                       - เป็นผื่นแพ้สัมผัสหรือระคายเคืองจากสารเคมีต่างๆ เช่น แป้ง โลชั่น สบู่ ผงซักฟอก น้ำหอม ถุงยางอนามัย เป็นต้น มักมีอาการคันร่วมด้วย

                        - หากเกิดบริเวณโคนของอัณฑะ ใกล้ๆ กับบริเวณหัวหน่าว ซึ่งมีขนอยู่นั้น อาจเป็นรูขุมขนที่อักเสบ

                        - โรคหิด โดยจะมีตุ่มนูนแดงเล็กๆ หรือตุ่มน้ำใสเล็กๆ ซึ่งเป็นจุดที่หิดขุดผิวหนังเข้าไปอยู่ แต่จะทำให้มีอาการคันมาก โดยเฉพาะเวลากลางคืน

                        - เริมที่อวัยวะเพศ แต่ตุ่มจะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใส มีอาการแสบร้อนหรือเจ็บปวดร่วมด้วย หรืออาจเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น ซิฟิลิส แผลริมอ่อน ซึ่งในช่วงแรกจะเป็นตุ่มนูนแดง แต่ต่อมาก็จะแตกออกและกลายเป็นแผลให้เห็น ซึ่งโรคเหล่านี้สามารถติดต่อไปยังผู้หญิงได้ด้วย

                          ดังนั้น หากตุ่มแดงๆ ที่เป็นอยู่ ไม่หายไป แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาค่ะ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ฝ่ายหญิงมีอาการหรือไม่ก็ได้ค่ะ