เป็นเริมที่รักแร้ ปวดกระดูกแล้วแสบมาก มีอาเจียนหลังกินยาคุมกำเนิด สาเหตุเกิดจากอะไร

สวัสดีค่ะ คุณ Thiphanan Tesuea,

                 โรคเริมนั้น จะเกิดขึ้นที่อวัยวะเพศหรือที่ปากเท่านั้น ไม่ได้เกิดตามผิวหนังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ดังนั้น หากมีผื่นที่เป็นตุ่มน้ำใสเป็นกลุ่มๆ ที่ต่อมาแตกออกเป็นแผลมีสะเก็ด ร่วมกับอาการปวดแสบร้อน ก็คือโรคงูสวัดค่ะ

                 การดูแลตนเอง ได้แก่ การรักษาความสะอาดผิวหนังบริเวณที่เป็นอยู่ให้แห้งเสมอ หากมีเหงื่อออกมา ควรพยายามซับให้แห้งบ่อยๆ แต่ไม่ควรถูแรง หลังการอาบน้ำ ก็ต้องซับให้แห้งทุกครั้ง สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี และไม่แกะ ไม่เกาผื่นดังกล่าว เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย แต่หากมีอาการปวดแสบมาก หรือผื่นกินบริเวณกว้างมาก ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อพิจารณาทานยาต้านไวรัสและยาแก้ปวดแสบค่ะ

                  สำหรับอาการอาเจียน ไม่น่าเป็นผลจากการทานยาคุมกำเนิด เพราะเกิดหลังจากทานยาไปเพียง 3 นาที และหากได้ทานยามาหลายวันหรือหลายแผงแล้ว แต่เพิ่งมาเกิดอาการอาเจียนในครั้งนี้ ก็ไม่น่าใช่ค่ะ ดังนั้น อาการอาเจียน อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น

                   - การเจ็บป่วยไม่สบายของร่างกาย ซึ่งรวมถึงการที่กำลังเป็นโรคงูสวัดอยู่

                   - การติดเชื้อต่างๆ เช่น อาหารเป็นพิษ โรคไส้ติ่งอักเสบโรค ไวรัสตับอักเสบ เป็นต้น 

                   - การมีกระเพาะอาหารอักเสบ มีแผลในกระเพาะอาหาร มีแก๊สในทางเดินอาหารมาก

                   - เมารถ เมาเรือ ปวดศีรษะไมเกรน 

                   - ความเครียด วิตกกังวล

                   - การทานยาชนิดอื่นๆ ที่มีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน

                   หากอาการอาเจียนเพิ่งเป็นเพียง 1 ครั้ง แนะนำให้สังเกตอาการไปก่อน ในระหว่างนี้ ก็ควรพยายามจิบน้ำเปล่าบ่อยๆ ทานอาหารที่ย่อยง่าย รสไม่จัด ไม่มัน ไปก่อนค่ะ นอกจากนี้ ควรทานยาคุมกำเนิดซ้ำไปอีก 1 เม็ดด้วยค่ะ หลังจกานั้น ก็ให้ทานวันละ 1 เม็ดตามเวลาเดิมปกติต่อไป 

                   แต่หากอาการอาเจียนเป็นต่อเนื่อง หรือมีอาการอื่นๆ อีก ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจค่ะ