ถามแพทย์

  • บิดาเผลอดูดยาฆ่าหญ้า ตอนนี้ยังไม่มีอาการ ควรทำอย่างไร

  •  Sea Pada
    สมาชิก
    สวัสดีดีค่ะคุณหมอหรือผู้มีความรู้ทุกท่านนะคะ มีเรื่องปรึกษาค่ะ พ่อเผลอดูดยาฆ่าหญ้าแต่ไม่กลืนนะคะ หลังจากนั้นแค่บ้วนปากทิ้งด้วยน้ำเปล่า แต่ไม่ได้ไปหาหมอผ่านไป 3 วัน ปากเริ่มพุพองแต่ไม่มีอาการอย่างอื่นหลังจากไปหาหมอแล้วหมอบอกว่ายาซึมเข้าสู่ร่างกายแล้วช่วยอะไรไม่ได้แล้ว แต่อาการพ่อเป็นปกตินะคะ ดังนั้นจึงขอปรึกษาว่ากรณีควรทำอย่างไรดีคะ หรือไปตรวจโรงพยาบาลใหญ่ประจำภาคดีคะ
    Sea Pada  พญ.นรมน
    สมาชิก

     สวัสดีค่ะคุณ Sea Pada

    ยาฆ่าหญ้าเป็นสารเคมีอันตราย ไม่ควรสัมผัสกับร่างกายโดยตรง ยาฆ่าหญ้าจะมีส่วนผสมของสารเคมีหลัก คือ Carbamates และOrganophosphates ซึ่งมีผลต่อผิวหนังหรือเยื่อบุทำให้เกิดอาการพุพอง และทำให้มีอาการต่อระบบต่างๆภายในร่างกายเช่นใจสั่นหัวใจเต้นเร็ว อุณหภูมิในร่างกายสูง ม่านตาขยาย ร่างกายแห้งร้อน ปัสสาวะไม่ออก มีอาการลำไส้ไม่ทำงานได้

    ซึ่งอาจจะต้องสังเกตอาการต่างๆดังกล่าวไป การรักษาก็อาจจะรักษาตามอาการ ความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับปริมาณยาที่ได้รับ  และการได้รับการล้างท้องที่เร็วพอ รวมไปถึงการได้รับสารที่จับกับยาที่ทานลงไป เพื่อลดปริมาณยาที่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและเน้นการขับยาออกจากร่างกายให้มากที่สุด ซึ่งแพทย์จะใช้ สารที่เรียกว่า Fuller's earth  ให้จับกับตัวยาฆ่าหญ้าทำให้หมดฤทธ์ในลำไส้ได้ แต่อาจจะมีข้อจำกัดคือถ้าผ่านมาหลายวันดังกล่าวมาแล้ว อาจจะขับออกไม่ได้

    พิษจากยาฆ่าหญ้า ในระยะแรกจะพบในกลุ่มที่ได้รับพิษปริมาณมาก จะเสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมงแรกจากความล้มเหลวของการทำงานของหัวใจและสมอง ระยะที่สองเมื่อเกิดอาการตับและไตวาย จะเกิดภายหลังช่วง 3-10 วันหลังได้ยา และระยะสุดท้ายเกินกว่า 1 เดือนหรือเป็นปี ซึ่งเกิดจากปอดมีพังผืดเกิดขึ้น ระบบหายใจและหัวใจล้มเหลวตามมาได้

    ตอนนี้ถ้าไม่สบายใจ สามารถพาคุณพ่อไปพบแพทย์เพื่อตรวจซ้ำหาภาวะแทรกซ้อนต่างๆเช่นผลต่อไต ตับ หรือเอ็กซเรย์ปอดเพิ่มเติมได้ สามารถไปตามรพที่มีสิทธิ์การรักษาก่อน ซึ่งถ้าเกินศักยภาพการรักษาจะมีการส่งต่อไปในรพ.ที่ใหญ่ขึ้นต่อไป