ถามแพทย์

  • ตรวจพบว่าเป็นทั้งเชื้อ hiv และซิฟิลิซ วัดค่าเลือดซิฟิลิซได้ 1:32 แล้วลงมาเองเป็น 1:8 ทำไมแพทย์จึงยังไม่รักษา แล้วทำไมค่าเลือดจึงลงมาเอง

  •  BazaBuro
    สมาชิก
    รบกวนสอบถามหน่อยคับคุณหมอ วันที่27กันยายน ผมตัดสินใจเข้าตรวจหาเชื้อซิฟิลิส เพราะมาผื่นขึ้นที่ฝ่าเท่าและฝ่ามือ ผลตรวจtiter1:32 หมอเลยแนะนำให้ผมตรวจHIVด้วย ปรากฏผมเป็น positive ผมทำใจยอมรับและเข้ารับการรักษา วันที่ 1 ตุลาคม ผมมาโรงพยาบาลเจาะเลือดอีกครั้งค่าtiter ออกมา เป็น non-reactive หมอจึงนัดผมอีกเจาะเลือดอีกครั้งในวันที่ 8 ตุลาคมพร้อมเริ่มยาต้านTeevir แต่นัดให้มาฟังผลเลือด 15 ตุลาคม ปรากฏว่าค่าtiter เหลือ 1:8 หมอจึงไม่ได้สั่งจ่ายยาหรือให้ยาใดๆ บอกว่าค่าอาจจะลดลงได้อีกและนัดผมเจาะเลือดตรวจอีก 3 เดือนข้างหน้าแต่ผมไม่สบายใจคุณหมอเลยบอกงั้นเจาะวันที่ 5 เดือนพฤศจิกายนแทน และผื่นที่ขึ้นที่ฝ่ามือก็เริ่มหายเเละลอกออกแล้วคับ 1.ทำไมคุณหมอถึงไม่รักษา ปกติค่าtiterเท่าไหร่คับถึงให้ยาได้ 2.ยาต้านไวรัสมีผลกับค่าtiterมั้ยคับ 3.ทำไมค่าtiterถึงลดลงเองทั้งที่ยังไม่ได้มีการรักษาใดๆ ขอบคุณล่วงหน้าคับคุณหมอ
    BazaBuro  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ BazaBuro

    ซิฟิลิสคือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างหนึ่ง เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดเกลียว ทำให้มีอาการแผลที่อวัยวะเพศ ผื่นตามตัว ในระยะแรก หากไม่ได้รักษา โรคจะลุกลามต่อไปในระบบประสาท สมอง หรือหัวใจและหลอดเลือดได้ เป็นโรคที่ในปัจจุบันรักษาได้ด้วยการให้ยาฆ่าเชื้อเพนนิซิลินแบบฉีดเข้ากล้าม

    โดยปกติแล้ว ค่า titer หรือระดับภูมิคุ้มกันของร่ายกายต่อซิฟิลิสที่ 1:8 นั้น ก็ควรได้รับการรักษา แม้ว่าจะเป็นค่าที่ยังไม่สูงมากนัก ไม่แน่ใจว่าแพทย์อาจจะรอให้การเริ่มทานยาต้านไวรัสเป็นไปซักระยะก่อนอย่างไม่มีปัญหาใดๆหรือไม่ แล้วจึงค่อยเริ่มการรักษาเรื่องซิฟิลิซ ยาต้านไวรัสไม่ได้มีผลต่อชัดเจนกับระดับภูมิคุ้มกันต่อซิฟิลิซ ค่าซิฟิลิซอาจลดได้เองตามระดับภูมิคุ้มกันในร่างกาย แต่อย่างไรก็ตามแนะนำว่าควรได้รับการรักษาเพื่อให้โรคหายขาด ไม่ไปฝังตัวอยู่ในร่างกายและก่อให้เกิดปัญหาในระบบต่างๆดังกล่าวไปตามมาได้ จึงควรไปตามนัดกับแพทย์อย่างต่อเนื่อง