เรอบ่อย

สวัสดีค่ะ คุณผู้ใช้งาน,

                    อาการเรอบ่อย เกิดจากการมีแก๊สในทางเดินอาหารมาก ซึ่งอาจเกิดจาก

                   1. การกลืนอากาศเข้าไปปริมาณมาก จากการอ้าปาก พูดคุย หัวเราะมากไป หรือหายใจทางปาก การใช้หลอดดูดเครื่องดื่ม การเคี้ยวหมากฝรั่ง เป็นต้น

                   2. การทานอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สหรือเครื่องดื่มที่มีแก๊สมากไป เช่น น้ำอัดลม ถั่ว เมล็ดธัญพืชต่างๆ หรือทานอาหารที่ย่อยยาก เช่น เนื้อสัตว์เป็นปริมาณมาก การทานอาหารเร็วไป ไม่เคี้ยวให้ละเอียด

                   3. โรคกระเพาะอาหารอักเสบ กระเพาะอาหารเป็นแผล ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดอาการเรอบ่อยแล้ว มักมีอาการอื่นๆ อีก เช่น ปวดบริเวณท้องบริเวณลิ้นปี่หรือปวดค่อนไปทางด้านซ้าย อาหารไม่ย่อย อิ่มเร็ว คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น

                  4. โรคกรดไหลย้อน อาการจะคล้ายๆ กับกระเพาะอาหารอักเสบ แต่จะมีอาการแสบร้อนกลางอก แน่นหน้าอกร่วมด้วยร่วมด้วย มีน้ำรสเปรี้ยวหรือขมในคอ หรือเจ็บคอ ระคายเคืองคอ จุกที่คอ คลื่นไส้ เป็นต้น

                  5. มีนิ่วในถุงน้ำดี จะมีอาการ ท้องอืด แน่นท้อง จะมีอาการปวดท้อง บริเวณลิ้นปี่หรือใต้ชายโครงขวาร่วมด้วย

                 นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากการมีความเครียด วิตกกังวล ขาดน้ำย่อยอาหารบางชนิด เช่น น้ำย่อยย่อยโปรตีนนม แล้วดื่มนมเข้าไป การทานยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวดในกลุ่มโอปิออยด์ ยาเสริมธาตุเหล็ก แคลเซียม เป็นต้น หรืออาจเกิดจากมีการตั้งครรภ์อยู่ก็ได้ค่ะ

                    ในเบื้องต้น หากมีอาการขาดประจำเดือน ก็ควรตรวจหาการตั้งครรภ์ดูด้วย หากตรวจไม่พบ การดูแลตนเอง ได้แก่ การเลือกอาหารที่ย่อยง่าย คือเป็นอาหารประเภทต้ม นึ่ง ที่ชิ้นอาหารนิ่ม ไม่ทานอาหารประเภททอด ผัด ไม่ทานเนื้อสัตว์ที่ชิ้นใหญ่ไป อาหารต้องรสไม่จัด ไม่เผ็ด เคี้ยวช้าๆ ให้ละเอียด ไม่ทานและกลืนเร็ว ไม่ทานอาหารครั้งละปริมาณมากเกินไป  ไม่ดื่มน้ำอัดลม อัดแก๊สต่างๆ ไม่ดื่มชา กาแฟ โกโก้ แอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการใช้หลอดดูด หลีกเลี่ยงอาหารประเภทถั่วและธัญพืชต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ หลังทานอาหาร ห้ามนอนทันที ให้เว้นระยะอย่างน้อย 2 ชั่วโมงค่ะ สำหรับอาหารที่จะช่วยบรรเทาอาการเรอบ่อย เช่น ขมิ้นชัน พริกไทย เป็นต้น และอาจทานยาที่ช่วยลดแก๊สในทางเดินอาหาร ได้แก่ ไซเมทิโคน (simethicone), เอ็ม คาร์มิเนทิฟ (M. Carminative), มาเจสโต (magesto-F) เป็นต้น แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้น ก็ควรกลับไปพบแพทย์ค่ะ