อสุจิเป็นเลือด แล้วได้มีเพศสัมพันธ์ ต่อมาฝ่ายหญิงมีปวดท้องน้อย เลือดออกช่องคลอด มีไข้ ปวดขาหนีบ เกิดจากอะไร

สวัสดีค่ะ คุณ อดีตไม่สำคัญ ปัจจุบันสำคัญกว่า,

                    การมีอสุจิปนเลือดออกมา อาจเกิดจาก

                 - ท่อปัสสาวะ หรือ กระเพาะปัสสาวะอักเสบจากการติดเชื้อ

              - อัณฑะอักเสบ (orchitis) หรืออัณฑะอักเสบร่วมกับท่อนำน้ำเชื้ออักเสบ (epididymitis)  ซึ่งอาจเกิดจากเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคคางทูม หรือเชื้อแบคทีเรียที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม หรือเป็นเชิ้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ 

              - ต่อมลูกหมากอักเสบจากการติดเชื้อ 

              - ต่อมลูกหมากอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ มักพบในคนอายุมาก ไม่ทราบสาเหตุการเกิดที่ชัดเจน  

              - นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ก้อนเนื้อและมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ 

              - นิ่วในไต โรคของไตบางชนิด มะเร็งที่ไต

              - ต่อมลูกหมากโต มะเร็งต่อมลูกหมาก 

               ทั้งนี้ หากฝ่ายชายได้มีเพศสัมพันธ์กับฝ่ายหญิง แล้วต่อมาฝ่ายหญฺงเกิดอาการปวดท้องน้อย มีเลือดไหลจากช่องคลอดนาน 9 วัน มีไข้ เวียนหัว ปวดขาหนีบ ก็แสดงว่าฝ่ายชายน่าจะมีการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อยู่ และทำให้ฝ่ายหญิงติดเชื้อ เกิดมดลูกอักเสบไปด้วย จึงมีอาการผิดปกติดังที่เล่าเกิดขึ้นมาค่ะ แนะนำว่าควรต้องไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจและรักษาค่ะ ไม่ควรปล่อยไว้ เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ นอกจากนี้ ก็ควรพาฝ่ายชายไปตรวจรักษาด้วย แม้จะไม่มีอาการแล้วก็ตาม เพราะหากเกิดจากการติดเชื้อและมีต่อมลูกหมากหรืออัณฑะอักเสบอยู่ ก็จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นหมันได้ ส่วนฝ่ายหญิง ก็อาจทำให้มีลูกยากในอนาคตด้วยค่ะ

                   แต่นอกจากนี้แล้ว ก็ควรตรวจหาการตั้งครรภ์ดูด้วยนะคะ เพราะอาการเลือดออกและปวดท้องน้อย อาจเกิดจากมีภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ก็ได้ด้วยค่ะ