-
เพิ่งทราบว่า ยาปฎิชีวนะมีผลให้ยาคุมเสื่อมสภาพ และมีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์
-
Jan 28, 2018 at 11:06 PM
อยากสอบถามค่ะ เนื่องจากมีประจำเดือนวันแรกเมื่อวันที่ 21 ม.ค.61 แล้วเริ่มทานยาคุมแบบ 21 เม็ด (Yasmin) ตั้งแต่มีประจำเดือนวันแรก(ปกติมีประจำเดือน 5 วันและไม่ค่อยคลาดเคลื่อน) และเมื่อวันเสาร์ที่ 27 ม.ค.61 มีอะไรกับแฟนแล้วหลั่งใน แต่วันศุกร์ที่ 26 ม.ค.61 ไม่สบายจำเป็นต้องเริ่มทานยาฆ่าเชื้อ (ตัวยา Amoxy+Clavu 1000mg) ซึ่งพึ่งทราบว่า ยาปฏิชีวนะมีผลต่อยาคุม ทำให้ตัวยาคุมเสื่อม จึงอยากทราบว่า จะเสี่ยงตั้งครรภ์ไหมคะ? และยังอยู่ในช่วงหน้า 7 หลัง 7 ไหมคะ? ขอบคุณค่ะ
Jan 29, 2018 at 06:30 AM
สวัสดีค่ะ คุณ Nongl,
ยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีเอสโตรเจน จะผ่านกระบวนการเมตาบอลิซึมที่ตับโดยอาศัยเอนไซม์ชื่อ cytochrome P450 IIIA4 (CYP3A4) ดังนั้นยาที่อาศัยกระบวนการเมตาบอลิซึ่มด้วยเอนไซม์ตัวนี้ย่อมมีผลต่อระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจนในกระแสเลือด ซึ่งก็จะมีผลต่อการคุมกำเนิดได้นั่นเอง
ซึ่งยากลุ่ม penicillin รวมถึง amoxycillin and clavulanic acid ไม่ได้อาศัยเอนไซม์ตัวนี้ในการเมตาบอลิซึม และในการศึกษาส่วนใหญ่ ไม่พบว่ายากลุ่ม penicillin มีผลกับระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในกระแสเลือด หรือมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นสามารถทานยาดังกล่าวได้ค่ะ
ส่วนยาที่มีผลต่อระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในกระแสเลือดอย่างมีนัยสำคัญและทำให้ประสิทธิภาพของการคุมกำเนิดลดลงได้ คือ ยาปฏิชีวนะ rifampin, griseofluvin, ketoconazole ยากันชักต่าง ๆ ได้แก่ carbamazepine, phenytoin, topiramate, phenobarbital, oxcarbazepine, felbamate ยาต้านเชื้อไวรัส HIV ได้แก่ darunavir, efavirenz, lopinavir, nevirapine
หากประจำเดือนเริ่มมาในวันที่ 21 ม.ค. และมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 27 ม.ค. เท่ากับมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 7 นับตั้งแต่มีประจำเดือนมา ถือว่ายังอยู่ในระยะปลอดภัยค่ะโอกาสที่จะตั้งครรภ์นั้นน้อยอยู่
อย่างไรก็ตาม หากเพิ่งเริ่มทานยาคุมเป็นแผงแรก ยาอาจยังออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมไปด้วยค่ะ
-
ถามแพทย์
-
เพิ่งทราบว่า ยาปฎิชีวนะมีผลให้ยาคุมเสื่อมสภาพ และมีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์