-
มีเพศสัมพันธ์ ถุงยางขาด แต่ยังไม่ได้หลั่ง กินยาคุมฉุกเฉิน มีโอกาสตั้งครรภ์แค่ไหน มีภาวะโลหิตจางอยู่
-
Jun 24, 2021 at 01:03 PM
สวัสดีครับคุณหมอขออนุญาตขอเวลาหมอสักครู่นะครับ เล่าก่อนว่ามีเพศสัมพันธ์เมื่อตอนตี 1 วันที่ 19 มิ.ย. เเล้วถุงยางอนามัยฉีกขาด (บริเวณรอบ ๆ ปลายหัว) โดยไม่รู้ตัวว่าขาดไปตอนไหน พอรู้ตัวก็เลิกทำกิจกรรมทันทีเเล้วมาดูบริเวณที่ขาดมีน้ำใส ๆ ที่บริเวณหัวซึ่งตอนนั้นยังไม่เสร็จ(ใช้นิ้วมือข้างซ้ายเเตะรู้สึกไม่มั่นใจว่าเป็นทางของฝั่งผู้ชายหรือผู้หญิงครับ อนุมานไปว่าเป็นฝั่งของตัวเราเอง) หลังจากนั้นก็ใช้มือ(ขวา)ช่วยจนเสร็จเเละผมใช้นิ้วซ้ายที่ไปเเตะน้ำใส ๆ มาใช้นิ้วช่วยให้ทางผู้หญิงด้วยไม่ลึกมาก (น้ำพุ่งกระจายขึ้น ในตอนนั้นปิดไฟอยู่เป็นความชะล่าใจของผมเอง ทางผู้หญิงยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า เขานอนพักสักเเปปนึงเเล้วใส่) พอตอนเช้ามีความกังวลใจจึงไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมากิน ในตอนเที่ยง เเละกินต่ออีกเม็ดในเวลาเที่ยงคืน (ระยะเวลาเม็ดเเรกห่างจากการทำกิจกรรมประมาณ 10-11 ชั่วโมง) หลังจากกินยาไม่มีอาการอาเจียนออกมามีเเต่ปวดหัว มีอาการตกขาว ทางผู้หญิงมีประจำเดือนที่มาไม่ปกติในเเต่ละเดือน เดือนพ.ค. มาวันที่ 14-25 เดือน มิ.ย. มาวันที่ 12-16 ครับ เเละมีโรคโลหิตจาง (ไม่ใช่ธาลัสซีเมีย) ทำให้มีปัญหาเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ขออนุญาตสอบถามคุณหมอครับ 1. น้ำคัดหลั่งของผู้ชายมีสิทธิ์ที่อสุจิจะปนเข้ามาด้วยใช่ไหมครับ การที่ผมใช้นิ้วซ้ายที่ไปเปื้อนน้ำคัดไลั่งที่คาดว่าเป็นของตัวเองนี้ทำให้ท้องไหมครับ? เเล้วการที่ผมใช้มือช่วยเเล้วมีน้ำกระจายเปื้อนที่นอนหรือผ้าห่มเเล้วทางผู้หญิงเขานอนต่อมีโอกาสทำให้อสุจิเข้าไปทางช่องคลอดโดยตรงได้ไหมครับ? 2. การที่เป็นโรคโลหิตจางเเล้วกินยาคุมฉุกเฉินด้วย มีความเสี่ยงต่อทางผู้หญิงไหมครับ? เเล้วจากการเป็นโรคส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของยาลดลงไหมครับ? เป็นไปได้ไหมครับที่ผลที่ของการที่เกิดภาวะมีบุตรยากของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ทำให้ไม่เกิดการตั้งครรภ์ในครั้งนี้? 3. ถ้าผลของโรคโลหิตจางไม่ลดประสิทธิภาพของยา ยาคุมฉุกเฉินที่กินในช่วง 10-11 ชั่วโมงสามารถให้ประสิทธิภาพการทำงานได้สูงไหมครับ ผมเห็นว่าภายใน12ชั่วโมงจะดีสุด? 4. ถ้านับหลัง 7 วันปลอดภัย ตั้งเเต่วันที่ 12 วันที่ 19 คือไม่ปลอดภัยเเล้วใช่ไหมครับ ? ในกรณีสถานการณ์ทั้งหมดนี้มีโอกาสตั้งครรภ์กี่เปอร์เซ็นต์ครับ? 5. ถ้าต้องการตรวจสอบการตั้งครรภ์จากที่ตรวจตามร้านขายยา ในกรณีนี้สามารถตรวจเจอได้ภายในกี่อาทิตย์ครับถ้าหากตั้งครรภ์? การตรวจของที่ตรวจในกรณีของที่มีโรคโลหิตจางด้วยจะทำให้ผลไม่เป็นจริงไหมครับ? ถ้าไปตรวจที่โรงพยาบาลสามารถตรวจได้อาทิตย์ที่เท่าไรครับ? 6. ถ้าสมมุติเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นเกิดจากสาเหตุจากอะไรได้บ้างครับ? ปล.1 ผมมีความกังวลใจมากครับเนื่องจากไม่เคยเจอเหตุการณ์ในลักษณะถุงเเตกมาก่อนเเละเป็นห่วงทางผู้หญิงด้วยครับว่ายาจะส่งผลต่อโรคที่เขาเป็นอยู่มากไหมครับ ทั้งนี้ถ้ารู้ว่ามีความเสี่ยงมากจะได้เตรียมการทำบอกทางบ้านในเรื่องการรับผิดชอบครับ ปล.2 ต้องขอโทษคุณหมอด้วยครับที่พิมพ์ข้อความเยอะเเละถามคำถามจำนวนมาก ถ้าเป็นไปได้รบกวนหมอตอบเเต่ละข้อได้ไหมครับ ถ้าหากเกิดการตั้งครรภ์จริงจะได้เป็นเคสให้ท่านอื่นเเละให้ความรู้เพิ่มเติมกับคนที่ไม่ทราบเรื่องนี้ด้วยครับ ขอบคุณมากครับ ปล.3 ถ้าหากหมอมีคำเเนะนำเพิ่มเติมในอนาคต ผมยินดีมากที่จะรับฟังครับ ขอบคุณพระคุณมากครับJun 24, 2021 at 01:20 PM
สวัสดีค่ะ คุณ Satoshi Winter,
สำหรับคำถามที่ถามเป็นข้อๆ
1. น้ำหล่อลื่นของฝ่ายชาย อาจมีอสุจิปนอยู่ได้ หากก่อนหน้านั้นไม่นาน ฝ่ายชายได้มีการหลั่งน้ำอสุจิออกไปก่อนแล้ว เช่น จากการช่วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม การที่น้ำหล่อลื่นของผู้ชายเข้าสู่ช่องคลอด โอกาสในการตั้งครรภ์ถือว่ามีน้อย เพราะปริมาณอสุจิที่มีอยู่น้อยค่ะ
2. การมีภาวะโลหิตจาง ไม่ได้มีผลต่อประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินค่ะ ส่วนการมีโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่อยู่ มีโอกาสที่ทำให้การตั้งครรภ์เกิดขึ้นยากกว่าผู้หญิงที่ไม่มีโรคนี้ค่ะ
3. ยาคุมฉุกเฉินนั้น ไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% และประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ของยาคุมฉุกเฉิน จะขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการทานหลังจากมีเพศสัมพันธ์ หากได้ทานภายในไม่เกิน 12 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ประมาณ 95% หากทานภายใน 12-24 ชั่วโมง จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 85% หากทานภายใน 24-48 ชั่วโมง จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 75% หากทานภายใน 48-72 ชั่วโมง จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 58%
4. หากประจำเดือนมาวันที่ 12 มิ.ย. แล้วได้มีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 19 มิ.ย. เท่ากับมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 8 นับจากวันแรกที่มีประจำเดือนมา ถือว่าเลยระยะปลอดภัยไปแล้ว โอกาสที่จะตั้งครรภ์นั้นมีได้ แต่หากได้ทานยาคุมฉุกเฉินไปภายในไม่เกิน 12 ชั่วโมงหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ ยาคุมฉุกเฉิน จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 95% ค่ะ
5. การตรวจหาการตั้งครรภ์จากปัสสาวะ ควรตรวจหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้วอย่างน้อย 2 สัปดาห์ค่ะ ส่วนการเป็นโรคโลหิตจาง ไม่ได้มีผลต่อการตรวจหาค่ะ
6. หากเกิดการตั้งครรภ์ขึ้น ก็เกิดจากการที่มีอสุจิเข้าไปสู่ช่องคลอดและมดลูกได้สำเร็จค่ะ
หากจะมีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ ก็ควรใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด แผ่นแปะคุมกำเนิด เป็นต้น ซึ่งจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากกว่า 99% ไม่ควรทานยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆ โดยไม่จำเป็น เพราะจะมีผลต่อการทำงานของรังไข่ ทำให้มีเลือดออกผิดปกติ และประจำเดือนมาผิดปกติได้ อีกทั้งประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินก็ไม่ถือว่าดีมากนักเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ ค่ะ โดยจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 58%-95% ค่ะ
-
ถามแพทย์
-
มีเพศสัมพันธ์ ถุงยางขาด แต่ยังไม่ได้หลั่ง กินยาคุมฉุกเฉิน มีโอกาสตั้งครรภ์แค่ไหน มีภาวะโลหิตจางอยู่