อายุ 23 ปี กลางคืนหายใจมีเสียงครืดๆในลำคอ หายใจไม่เต็มปอด หัวใจเต้นเร็ว ขี้ตกใจ ทานยารักษาหอบหืดแล้วไม่ดีขึ้น

สวัสดีค่ะ คุณ Pearmai,

                   อาการหายใจมีเสียงครืดๆ ในลำคอ น่าจะเกิดจากการมีเสมหะในลำคอ ซึ่งอาการดังกล่าว และอาการที่หายใจไม่สะดวก หายใจไม่เต็มปอดในช่วงกลางคืน อาจเกิดจากสาเหตุ เช่น

                    1. เป็นโรคกรดไหลย้อน  ซึ่งเกิดจากการที่น้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาถึงบริเวณลำคอ ทำให้เกิดการระคายเคืองคอและมีเสมหะได้ โดยเฉพาะเมื่อนอนลง อาการก็จะเป็นได้มากขึ้น แต่นอกจากนี้ อาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น แสบร้อนจากช่วงอกไปจนถึงลิ้นปี่ เจ็บหน้าอก มีน้ำรสเปรี้ยวหรือขมในคอ เรอบ่อย เจ็บคอ ระคายเคืองคอ เป็นต้น 

                   2. ภูมิแพ้อากาศ แต่นอกจากจะทำให้มีเสมหะในลำคอแล้ว มักมีน้ำมูกใส จาม คันจมูก คันหัวตา ร่วมด้วย 

                   3. โรคหอบหืด อาจทำให้มีเสมหะในลำคอได้ และมักมีอาการเหนื่อยง่าย หายใจลำบาก หายใจเสียงดังวี๊ดๆ ที่จะเกิดขึ้นเป็นพักๆ เมื่อสัมผัสกับสิ่งที่ก่อให้เกิดการแพ้ต่างๆ 

                    4. เป็นไข้หวัด หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสได้หลายชนิด แต่นอกจากจะมีเสมหะ หายใจไม่สะดวกแล้ว ก็จะมีอาการคัดจมูก มีน้ำมูกไหล มีไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว เป็นต้น 

                    สำหรับอาการหัวใจเต้นเร็ว หากเกิดเฉพาะขณะที่มีอาการตกใจ ก็ถือว่าไม่ได้ผิดปกติอะไร อย่างไรก็ตาม หากมีอาการตกใจง่ายบ่อยๆ จนทำให้เกิดอาการต่างๆ นอกจากใจสั่น เช่น มือสั่น ตัวสั่น เหงื่อออก หายใจติดขัด หายใจไม่อิ่ม คลื่นไส้ ปั่นป่วนในท้อง มึนหัว โคลงเคลง  เหน็บชา เป็นต้น และมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียนหรือการทำงาน แนะนำควรไปจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการและรักษาค่ะ โดยอาจเป็นอาการของโรคตื่นตระหนก หรือโรคแพนิคได้

                   ในเบื้องต้น แนะนำให้ดูแลตนเองแบบโรคกรดไหลย้อนร่วมไปด้วย เช่น การทานอาหารที่ย่อยง่าย ไม่ทานรสจัด ไม่ทานปริมาณมากไป เคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน  ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และน้ำอัดลมอัดแก๊สต่างๆ เป็นต้น หลังทานอาหารต้องห้ามนอนทันที ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2-4 ชั่วโมง เป็นต้น นอกจากนี้ หากแพทย์เคยวินิจฉัยว่ามีหอบหืดด้วย ก็ควรพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจกระตุ้นให้หอบหืดกำเริบ เช่น การทานอาหารบางอย่าง ไรฝุ่น ฝุ่นละออง สะเก็ดผิวหนังสัตว์ รวมถึงความเครียด การโดนอากาศที่เย็น โดนลมเย็นๆ การดื่มน้ำเย็น หรืออาบน้ำเย็น โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน เป็นต้น 

                     หากอาการต่างๆ ไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจอีกครั้งค่ะ