ถามแพทย์

  • มีตุ่มมา 3-4 วัน คันบ้าง แห้งตกสะเก็ดแล้ว เป็นเริมไหม ไม่ด้มีเพศสัมพันธ์มาหลายเดือน

  •  supasak
    สมาชิก

    สวัสดีครับ เป็นมาสามสี่วันแล้วครับคันบ้างเป็นบ้างวันเหมือนตุ่มนี้จะแห้งตกสะเก็ตแล้วมันจะสามารถหายไปเองได้หรือเปล่าครับหรือเป็นโรคอะไรรึเปล่าครับ ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เลยในระยะหลายเดือน file:///C:/Users/User/OneDrive/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E/IMG_E8229.JPGfile:///C:/Users/User/OneDrive/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E/IMG_8229.JPG

    สวัสดีค่ะ คุณ supasak,

                      เนื่องจากไม่สามารถเห็นรูปจาก link ที่ให้มา เพราะเป็น file จาก drive C ค่ะ จึงขออธิบายลักษณะของโรคเริม ดังนี้ 

                      โรคเริม เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ (Herpes Simplex Virus) โดยเชื้อไวรัสเริมแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ เชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ ชนิดที่ 1 (Herpes Simplex Virus type 1: HSV-1) และเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ ชนิดที่ 2 (Herpes Simplex Virus type 2: HSV-2) ทั้ง 2 ชนิด สามารถทำให้เกิดรอยโรคที่ริมฝีปากและอวัยวะเพศได้ แต่จะไม่ได้เกิดรอยโรคที่ผิวหนัง

                        หากเป็นเริมที่อวัยวะเพศ จะติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยเริ่มแรกจะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใสบริเวณอวัยวะเพศชาย อาจมี 1 ตุ่มหรือหลายตุ่ม มีอาการแสบร้อนหรือเจ็บปวด ต่อมาตุ่มน้ำจะแตกและกลายเป็นแผล และมีน้ำเหลืองซึมได้ หากเป็นครั้งแรกอาการจะเป็นอยู่นาน 2-4 สัปดาห์ บางรายอาจมีไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว อ่อนเพลียร่วมด้วย เมื่อเป็นเริมครั้งหนึ่งแล้ว ก็จะกลับเป็นซ้ำๆ ได้อีกโดยไม่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์อีก เนื่องจากเชื้อจะอยู่ในรางกายของเราไปตลอดชีวิต โดยอัตราการเป็นซ้ำอาจถี่หรือห่างขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ส่วนใหญ่ประมาณ 4-5 ปีจะกำเริบมา 1 ครั้ง โดยจะเกิดเมื่อมีปัจจัยบางอย่างมากระตุ้น หรือภาวะภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ

                         ดังนั้น หากลักษณะของตุ่ม เป็นแบบน้ำใส และต่อมาแตกออกเป็นแผล ก็น่าจะเป็นโรคเริมได้ แต่หากเป็นตุ่มแบบอื่นๆ และไม่ได้แตกออกเป็นแผล ก็ไม่น่าเป็นโรคเริม โดยอาจเกิดได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น 

                          - การแพ้หรือระคายเคืองจากสารเคมีต่างๆ เช่น สบู่แป้ง โลชั่น น้ำหอม ผงซักฟอก รวมถึงถุงยางอนามัย เป็นต้น 

                           - จากแมลงสัตว์กัดต่อย 

                           - หูดหงอนไก่ แต่ไม่น่าเกิดการตกสะเก็ดเกิดขึ้น

                           - โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น ซิฟิลิส แผลริมอ่อน เป็นต้น แต่หากไม่ได้มีเพศสัมพันธ์มาหลายเดือนแล้ว ก็ไม่ใช่สาเหตุ

                          เพื่อให้การวินิจฉัยที่แน่นอน ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจ ในเบื้องต้น ก็ไม่ควรไปแคะ แกะ เกาตุ่มและสะเก็ดที่เกิดขึ้น ไม่ควรทายาใดๆ หลีกเลี่ยงการทาแป้ง น้ำหอม หรืออื่นๆ บริเวณที่ใกล้อวัยวะเพศค่ะ