ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์ 16 มี.ค. กินยาคุมฉุกเฉิน ประจำเดือนไม่มา ตรวจแล้วไม่ท้อง แล้วมีเลือดออก 18-22 เม.ย. จะท้องไหม

  •  foxxxx
    สมาชิก

     สวัสดีครับ ขอปรึกษาหน่อยนะครับ ผมมีอะไรกันกับแฟน วันที่16 แล้วผมให้แฟนกินยาคุมฉุกเฉินภายในเวลา1-2ชั่วโมง ปกติแฟนประจำเดือนมา วันที่3 ตลอด ผ่านมาหลายวันแล้วประจำเดือนแฟนก็ยังไม่มา เลยซื้อที่ตรวจมาให้แฟนปรากฏว่า ขึ้นขีดเดียวทั้งสองอัน ผ่านมา4-5ชั่วโมงมาดูใหม่ ปรากฏว่าขึ้นอันหนึ่งขึ้น1ขีดจางๆแบบมากๆ อีกอัน1ขีดเหมือนเดิม เลยให้ตรวจใหม่อีกครั้งแต่ก็ขีดเดียว ซึ่งวันที่18 แฟนปวดท้องเหมือนประจำเดือน มีเลือดออกเยอะมากสีแดงปกติของทุกเดือน ช่วง18-20 จะปวดหนักมากและเลือดเยอะเหมือนเดือนก่อนๆ วันที่21 ปวดน้อยลง มีเลือดแต่ไม่มากเท่า3วันแรก วันที่22 เป็นวันที่ไม่ปวดท้องเลย แต่มีเลือดสีดำออกน้ำตาลนิดๆ ออกมานิดหน่อย คงเป็นเลือดตกค้างใช่มั้ยครับ แล้วเมื่อวานนี้แฟนมีอาการปวดท้องน้อยตรงกลางด้วยครับ วันนี้ก็ด้วย และมีอาการปวดหัวด้วย อาจจะเป็นเพราะไมเกรนรึป่าวครับ เพราะว่าแฟนบอกว่า เป็นไมเกรนเมื่อไม่นานมานี้ แฟนผมตั้งครรภ์มั้ยครับ แฟนผมไปหาแพทย์ไม่ได้เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยง ยาวหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ foxxxx,

                        หากได้ทานยาคุมฉุกเฉินหลังจากมีเพศสัมพันธ์ภายในไม่เกิน 12 ชั่วโมง ยาคุมฉุกเฉินก็จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 95% ดังนั้น โอกาสในการตั้งครรภ์ถือว่ามีน้อยอยู่

                        และหากได้ตรวจหาการตั้งครรภ์หลังจากที่ประจำเดือนขาดไปแล้ว หรือเกิน 2 สัปดาห์นับจากที่ได้มีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว พบขึ้นเพียง 1 ขีด ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ ส่วนการที่เมื่อตั้งแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ทิ้งไว้ แล้วพบขึ้นขีดที่ 2 จางๆ นั้น ถือเป็นผลบวกลวง ที่เกิดจากรอยระเหยของปัสสาวะค่ะ ไม่ได้เกิดจากการตั้งครรภ์ ทั้งนี้ การตรวจหาการตั้งครรภ์จากปัสสาวะ จะอ่านผลภายในไม่เกิน 5 นาที หากเกินแล้ว จะไม่นับว่าเป็นผลที่ถูกต้องค่ะ

                         สำหรับเลือดที่ออกในวันที่ 18-22 เม.ย. นั้น ก็น่าจะเป็นประจำเดือนได้ และอาการปวดท้องน้อยที่เป็น ก็ถือเป็นอาการปวดประจำเดือน ไม่ได้ผิดปกติอะไร ซึ่งการที่มาช้า ก็อาจเกิดจากผลของยาคุมฉุกเฉินได้ค่ะ ดังนั้น ก็เท่ากับไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น

                         ส่วนอาการปวดท้องน้อยตรงกลางในตอนนี้ ซึ่งประจำเดือนได้หมดไปแล้ว อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ มดลูกอักเสบ มีท้องผูก มีเนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เป็นต้น หากปวดไม่มาก แนะนำควรสังเกตอาการไปก่อน แต่หากปวดต่อเนื่องนานหลายวัน หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีตกขาวที่ผิดปกติ ปัสสาวะผิดปกติ เป็นต้น แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ