โดนตะขาบกัดมา 2 อาทิตย์ ตอนนี้เป็นไตแข็ง คันมาก มีรอยผื่นแดง รอยช้ำ แผลติดเชื้อไหม ควรไปหาหมอไหม

สวัสดีค่ะ คุณ นพรัตน์ ทะยอมใหม่,

                    เมื่อโดนตะขาบกัด อาจทำให้เกิด

                   1. ปฏิกิริยาแพ้ต่อตะขาบ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน บางคนที่ไม่แพ้ ก็จะไม่อาการอะไร หรืออาจเป็นเพียงรอยแดง เจ็บ คันเล็กน้อย และหายได้เองในเวลาไม่นาน บางคนอาจมีอาการแพ้มาก จนเกิดเป็นตุ่มแดงนูน คัน และมีน้ำเหลืองซึม 

                   2. พิษจากตะขาบ มักทำให้เกิดอาการปวด คัน บวมแดง ร้อน บริเวณถูกกัด และอาจมีไข้ต่ำ ๆ ร่วมด้วย ส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นภายในไม่เกิน 24 ชั่วโมง

                   3. การติดเชื้อบาดทะยัก ซึ่งมาจากเขี้ยวที่ไม่สะอาด

                   4. การติดแบคทีเรียต่างๆ ที่ผิวหนัง ซึ่งจะทำให้มีอาการปวด บวมแงดของผิวหนัง และเป็นฝีหนองตามมาได้

                   5. การติดเชื้อราที่ผิวหนัง จะเป็นผื่นนูนแดง ร่วมกับอาการคัน

                    ทั้งนี้ หากโดนกัดมานาน 2 สัปดาห์แล้ว อาการที่ยังคงเป็นอยู่ จึงไม่น่าเกิดจากพิษของตะขาบ แต่อาจยังเป็นปฏิกิริยาของการแพ้พิษได้ ส่วนการติดเชื้อแบคทีเรียนั้น มักทำให้เกิดการปวด บวมแดงมากกว่า ดังนั้น จึงไม่น่าเกิดจากการติดเชื้อ ในเบื้องต้น หากมีอาการคันมาก แนะนำให้ทานยาแก้แพ้แก้คันไปก่อนเช่น  ไฮดรอกไซซีน (hydroxyzine) , chlorpheniramine (CPM) เป็นต้น และอาจทานยาที่เป็นสเตียรอยด์เพื่อลดอาการแพ้และคัน เช่น ครีม triamcinolone, ครีม betamethasone เป็นต้น และควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรับการรักษาที่ถูกต้องค่ะ ไม่ควรซื้อยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อทานเอง เพราะหากไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ ก็จะทำให้เราได้รับยาไปโดยไม่จำเป็นค่ะ