เป็นซิฟิลิสขณะตั้งครรภ์ฉีดยาครบแล้ว แต่ยังพบเชื้อ 1:1 ตอนตั้งครรภ์8เดือน อันตรายไหม

สวัสดีค่ะคุณ Natcha Pang

ซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างหนึ่ง เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดเกลียว จะเป็นภาวะอันตรายที่ต้องรักษาในหญิงตั้งครรภ์เนื่องจากมันสามารถผ่านจากแม่สู่ลูกได้ในระหว่างการคลอดบุตรและขณะตั้งครรภ์

ซึ่งซิฟิลิสจะอันตรายต่อเด็กกล่าวคืออาจทำให้เกิดความพิการแต่กำเนิดเช่นทารกตายคลอด ทารกคลอดก่อนกำหนด ทารกโตช้าในครรภ์ ทารกบวมน้ำ หรือถ้าคลอดออกมาแล้วก็อาจจะเป็นโรคซิฟิลิสแต่กำเนิด เด็กมักตัวเล็ก เลี้ยงไม่โต ติดเชื้อได้ง่ายและบ่อย มีรูปร่างหน้าตาที่ผิดปกติ และอาจมีสติปัญญาไม่สมประกอบดังนั้นจึงเป็นภาวะที่ต้องรักษาในหญิงตั้งครรภ์ทุกราย

การวินิจฉัยใช้การตรวจเลือด คือตรวจระดับภูมิคุ้มกันของร่ายกายต่อซิฟิลิส โดยจะมีระดับค่าความมากน้อยและภูมิคุ้มกันในเลือดที่พบซึ่งจะเก็บไว้ติดตามการรักษา

การรักษาซิฟิลิสขึ้นกับว่าเป็นระยะใดของโรคซิฟิลิส โดยซิฟิลิสจะมี 4 ระยะ

-ระยะแรกจะมีแค่แผลที่อวัยวะเพศหรือต่อมน้ำเหลืองโต

-ระยะสองจะพบผื่นตามร่างกาย มีไข้ต่ำๆ

-ระยะแฝง คือระยะที่ไม่แสดงอาการ แต่เชื้อจะซ่อนอยู่ในร่างกาย

-ระยะสี่ คือเริ่มมีอันตรายต่อระบบประสาท ระบบหัวใจและหลอดเลือด เกิดหลังจากได้รับเชื้อประมาณ 3-10 ปี โดยทั่วไปเจอภาวะนี้น้อยในหญิงตั้งครรภ์

ถ้ารักษาด้วยการฉีดยาเพนนิซิลิน จี (Penicilline G) 3 เข็มห่างกัน 1 สัปดาห์น่าจะรักษาแบบซิฟิลิสในระยะแฝงหรือระยะสี่ หลังการรักษาประมาณ 6-12 เดือน ระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายดังที่กล่าวไปข้างต้น ควรลดลง 4 เท่า คือแพทย์จะมีค่าเดิมของเรา แล้วก็ค่าของเราหลังการรักษามาเปรียบเทียบกันค่ะ ถ้าลดไม่ได้ตามเกณฑ์นี้ถือว่ารักษาล้มเหลว ต้องเริ่มให้ยาใหม่ และอาจต้องเจาะน้ำไขสันหลังมาดูเพิ่มเติมด้วยว่าซิฟิลิสได้ลุกลามไปยังระบบประสาทหรือยังค่ะ

แนะนำให้กลับไปพบแพทย์ตามนัดหลังการรักษา และถามถึงผลเลือดว่าลดลงหรือไม่ การรักษาได้ผลหรือเปล่า สังเกตอาการของซิฟิลิสดังกล่าวไป และถ้าเจ็บครรภ์คลอดให้รีบไปพบแพทย์ค่ะ