-
ปวดบิดมวนท้อง กินของเปรี้ยว ของเผ็ดไม่ได้ มีท้องเสียทุกอาทิตย์ หมอบอกเป็นลำไส้แปรปรวน รักษาอย่างไร
-
Sep 09, 2022 at 11:13 AM
สวัสดีดีค่ะ พอดีหนูเป็นโรคลำไส้แปปรวนค่ะ ช่วงแรกๆ ไม่รู้ว่าตัวเองเป็น คิดว่าเป็นมะเร็งืไปหาหมอ หมอก็บอกไม่ได้เป็น เขาบอกเหมือนมึกรดเยอะให้ยามากิน ก็ยังเป็นเหมือนเดิม จนพยามสังเกตตัวเองทุกครั้งที่มีอาการปวดบิดมวนท้อง คือ จะกินของเปรี้ยว ของเผ็ดไม่ได้เลย นิดนึงก็ไม่ได้ จากตอนที่ยังไม่รู้คือท้องเสียทุกอาทิตย์ พอรู้ว่ากินอะไรไม่ได้ก็เลิกกินทุกอย่าง จน เดือนนึงเป็น ครั้ง แต่หนูอยากทราบว่า พอจะมีวิธีการรักษาไหมคะ บางทีการกินพริก กินมะนาว กินมะขาม ไม่ได้ หนูรู้สึกแย่ รู้สึกทำไมช่างโหดร้ายเหลือเกิน ขอคำแนะนำด้วยนะคะ หนูอยากกินได้เหมือนคนทั่วไปSep 09, 2022 at 12:13 PM
สวัสดีค่ะ คุณ Piyanut Nooree,
โรคลำไส้แปรปรวน การวินิจฉัยจะอาศัยจากอาการ คือ
มีอาการปวดท้องอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลานาน 3 เดือนขึ้นไป โดยอาการปวดท้องจะพบร่วมกับอย่างน้อย 2 ใน 3 ข้อดังนี้
1. ปวดท้องสัมพันธ์กับการถ่ายอุจจาระ เช่น ปวดท้องก่อนการถ่ายอุจจาระ หรือถ่ายอุจจาระแล้วมีปวดท้อง
2. ปวดท้องเกิดร่วมกับการเปลี่ยนแปลงของความถี่ในการถ่ายอุจจาระ เช่น ปกติถ่ายวันละ 1 ครั้ง เปลี่ยนมาเป็น 2-3 วันถ่าย 1 ครั้ง
3. อาการปวดท้องเกิดร่วมกับการเปลี่ยนแปลงลักษณะของอุจจาระ โดยมีอาการมานานอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งมีช่วงที่มีอาการต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือน
ดังนั้น หากมีอาการปวดมวนท้องเป็นๆ หายๆ มานานเกิน 3 เดือน และมีช่วงที่ท้องเสียทุกสัปดาห์ โดยที่ไม่มีเบื่ออาหาร ไม่มีน้ำหนักลด ไม่มีถ่ายเป็นเลือด ก็น่าจะเป็นโรคลำไส้แปรปรวนมากกว่ามะเร็งลำไส้ ซึ่งมักจะพบในคนอายุมาก และอาการจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงมีน้ำหนักลดลงอย่างชัดเจนค่ะ
โรคลำไส้แปรปรวนนั้น ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่พบว่ามีหลายปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดภาวะลำไส้แปรปรวน ได้แก่ การรับรู้ของระบบทางเดินอาหารที่ไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าปกติ การทานอาหารบางอย่าง การติดเชื้อในทางเดินอาหาร ปัญหาทางด้านจิตใจและอารมณ์ การใช้ยาบางชนิด และกรรมพันธุ์ โดยพบว่า ในครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นโรคลำไส้แปรปรวน จะมีแนวโน้มในการเกิดโรคนี้ได้ 2-3 เท่า
โรคลำไส้แปรปรวนไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต แต่อาจเป็นปัญหาในการการใช้ชีวิตประจำวันได้ หากอาการเป็นมาก ก็ควรพบแพทย์เพื่อจ่ายยารักษาค่ะ
ส่วนการดูแลตนเองเพื่อลดอาการของโรค ได้แก่
- ลดการทานเนื้อสัตว์ เพราะย่อยยาก เน้นการทานอาหารที่ย่อยง่าย รวมถึงผักและผลไม้
- ลดการทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ของทอด ของผัด รวมถึงขนมต่างๆ เบเกอรี่
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด
- ลดการดื่มนม และผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เนย และขนมหรืออาหารที่มีนมเนย
- ทานอาหารให้ตรงเวลา ไม่ควรอดอาหาร ไม่ควรเร่งรีบทาน
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ หากการที่ทานของเปรี้ยวและของเผ็ด แล้วกระตุ้นทำให้เกิดอาการปวดท้อง ก็ควรต้องงดการทานค่ะ หากฝืนทาน เพราะอยากทานเหมือนคนอื่นๆ เราก็ย่อมต้องทนกับอาการที่เกิดขึ้นค่ะ เราต้องเข้าใจว่าร่างกายแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน มีโรคซึ่งแตกต่างกัน จึงไม่อาจทำตามสิ่งที่เราต้องการได้ทั้งหมด หากเราเลือกทานอาหารแต่สิ่งที่ดีและมีประโยชน์ และปฏิบัติตัวให้ร่างกายแข็งแรง อาการของโรคที่เป็นอยู่ในที่สุดก็จะค่อยๆ ดีขึ้นไปได้เอง นอกจากนี้ เราก็จะปลอดจากโรคอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน โรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น ในขณะที่ผู้อื่น ซึ่งไม่มีปัญหาในการทานอาหาร แล้วไม่เลือกทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ในที่สุด ก็อาจเกิดโรคต่างๆ ตามมาได้ค่ะ
-
ถามแพทย์
-
ปวดบิดมวนท้อง กินของเปรี้ยว ของเผ็ดไม่ได้ มีท้องเสียทุกอาทิตย์ หมอบอกเป็นลำไส้แปรปรวน รักษาอย่างไร