ถามแพทย์

  • ปวดหัวช่วงท้ายทอยมา 4 วัน มีอาการใจสั่นและความดันสูง ไปหาหมอได้ยามาแล้ว ยังมีปวดหัว เกิดจากอะไร

  •  Trinnakőrn
    สมาชิก
    สวัสดีครับคุณหมอ ผมมีอาการปวดหัวช่วงท้ายทอยไม่หายเป็นมา 4 วันแล้วครับ ก่อนหน้านี้ผมมีอาการใจสั่นและความดันสูง ได้เข้าพบแพทย์ฉุกเฉินตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจและเจาะเลือดดูค่าไทรอย ค่าไทรอยปกติครับ ส่วนใจสั่นหมอให้น้ำเกลือและยาใจสั่นอาการใจสั่นก็เบาลงครับและหมอก็ให้ยาใจสั่นกลับบ้าน พอกลับมาบ้านผมก็มีอาการใจสั่นอยู่บ้างและก็ปวดหัวเป็นพัก ๆ จะปวดมากช่วงก่อนนอนกับตอนตื่นนอนได้ซักพัก แล้วก็จะปวดเรื่อย ๆ เกิดจากสาเหตุอะไรครับ ขอบคุณครับ

    สวัสดดีค่ะ คุณ Trinnakőrn,

                          อาการใจสั่น (Palpitation) เป็นอาการที่รู้สึกว่าหัวใจเต้นไม่เป็นปกติ โดยอาจเป็นการเต้นเร็วกว่าปกติ (มากกว่า 100 ครั้งต่อนาที) หรือเต้นไม่เป็นจังหวะก็ได้ เช่น เร็วๆ ช้าๆ หรือมีการขาดหายไปบางช่วง เป็นต้น 

                         ส่วนสาเหตุที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ หรือเต้นผิดจังหวะ มีมากมาย เช่น  

                        - โรคของหัวใจ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ลิ้นหัวใจรั่ว ผนังหัวใจหนาผิดปกติ หัวใจวาย

                        - การเป็นโรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และทำให้มีผลต่อการเต้นของหัวใจตามมา

                        - ฮอร์โมนไทรอยด์ทำงานผิดปกติ ทั้งชนิดไทรอยด์เป็นพิษ และฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ

                         - การมีไข้ 

                         - ร่างกายขาดน้ำ มีการสูญเสียเลือดมาก

                         - น้ำตาลในเลือดต่ำ

                         - โลหิตจาง

                         - เกลือแร่ในเลือดไม่สมดุล เกลือแร่ในเลือด ได้แก่ โพแทสเซียม โซเดียม แคลเซียม และฟอสฟอรัส มีหน้าที่กระตุ้นและเป็นสื่อให้กระแสไฟฟ้าในหัวใจ หากระดับของเกลือแร่ในเลือดสูงหรือต่ำเกินไปจะส่งผลต่อการทำงานของกระแสไฟฟ้าในหัวใจและทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ

                        - การดื่มแอลกอฮอล์ หรือ ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนต่างๆ

                        - การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาแก้หวัด ยาแก้ไอ ยารักษาอาการหอบหืด ยาปฏิชีวนะ ยารักษาอาการซึมเศร้า ยารักษาความดันโลหิตสูง เป็นต้น 

                        - การใช้สารเสพติด

                        - การมีความเครียดและวิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่หลับ

                         หากได้ไปพบแพทย์และได้ยารักษาอาการใจสั่นมาทานแล้วอาการเบาลง แต่ยังมีใจสั่นอยู่บ้าง ก็ควรทานต่อเนื่องไปก่อน อาการน่าจะค่อยๆ ดีขึ้น ในระหว่างนี้ ก็ควรลดปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เกิดอาการใจสั่น เช่น การไม่ดื่มชา กาแฟ โกโก้ แอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ ดื่มน้ำให้เพียงพอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นต้น 

                        สำหรับอาการปวดหัวช่วงท้ายทอย อาจเกิดจากโรคความดันโลหิตสูงที่เป็นอยู่ได้  โดยโรคความดันโลหิตสูง จะทำให้เกิดอาการ ได้แก่ ได้ยินเสียงดังในหู ปวดศีรษะบริเวณท้ายทอย เวียนศีรษะ การเต้นของชีพจรจะผิดปกติ  ขาบวม เหนื่อยง่ายผิดปกติ เป็นต้น นอกจากนี้แล้ว อาการปวดหัวบริเวณท้ายทอย อาจเกิดจาก

                         - จากการมีกล้ามเนื้อบริเวณท้ายทอยหดเกร็ง พบในผู้ที่ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ แล้วมีการก้มคอ หรือต้องทำงานในท่าที่ก้มๆ เงยๆ บ่อยๆ

                         - ปวดท้ายทอยจากความเครียดและกล้ามเนื้อตึงตัว (tension headahce) โดยจะมีอาการปวดศีรษะเหมือนมีเข็มขัดรัดรอบศีรษะ และปวดร้าวไปที่ท้ายทอย ไหล่ บ่า มักจะพบร่วมกับอาการอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ อาการปวดจะเป็นมากในช่วงบายถึงค่ำ ส่วนตอนเช้ามาอาการปวดจะเป็นน้อย อาการปวดจะถูกกระตุ้นเมื่อมีความเครียด วิตกกังวล ทำงานหนัก เรียนหนัก ใช้สายตามากไป อดนอน เป็นต้น 

                       - โรคกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อม มักเกิดในคนอายุมาก

                       - เส้นประสาทส่วนคอถูกกด มักพบในผู้สูงอายุ เนื่องจากกระดูกสันหลังเเสื่อมหรือหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม อาการปวดมักร้าวไปที่แขน และอาจมีอาการชาและแขนอ่อนแรงร่วมด้วย

                        ในเบื้องต้น แนะนำควรลองวัดความดันโลหิตดูว่าลดลงหรือไม่ หากยังไม่ลดลง ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนยาลดความดันโลหิต หรือหากความดันโลหิตลดลงจนปกติแล้ว แต่ยังมีอาการปวดท้ายทอยอยู่ ก็ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติมต่อไปค่ะ ส่วนการปฏิบัติตัว ได้แก่ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ นั่งทำงานให้ถูกท่าทาง ไม่นั่งก้มคอ หรือนั่งทำงานติดต่อกันนานเกินไป ควรมีการเปลี่ยนอิริยาบทบ้าง เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดอาหารรสเค็มและอาหารที่มีโซเดียมสูง ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ เป็นต้น