ถามแพทย์

  • หลังจากมีเพศสัมพันธ์ ใจสั่นเต้นเร็วมาก สัก 5 นาที จะเป็นโรคหัวใจไหม

  •  Sarawut Chinprayoon
    สมาชิก

    เมื่อคืนหลังจากมีเพศสัมพันธ์ แล้วผมใจสั่นเต้นเร็วมาก สัก5นาที จะเป็นโรคหัวใจหรืออันตรายมั้ยครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ Sarawut Chinprayoon,

                     อาการใจสั่น ใจเต้นเร็ว อาจเกิดจาก

                   1. ความกลัว ความตื่นเต้น ความเครียด วิตกกังวล โดยอาการจะเป็นเพียงชั่วคราวแล้วหายไป

                    2.โรคตื่นตระหนก หรือโรคแพนิค หรือโรคหัวใจอ่อน คือภาวะวิตกกังวลหรือมีความรู้สึกกลัวอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันทีโดยไม่คาดคิดมาก่อน ไม่มีสิ่งกระตุ้นหรือสาเหตุที่ชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากอาการวิตกกังวลหรือตื่นเต้นทั่วแบบในข้อ 1 ที่มีสาเหตุหรือสิ่งที่มากระตุ้นที่ชัดเจน แต่นอกจากอาการใจสั่นแล้ว ก็จะมีมือสั่น หรือตัวสั่น เหงื่อออก ร้อนวูบวาบ หรือหนาว หายใจติดขัด หายใจไม่อิ่ม หอบ แน่นในหน้าอก เจ็บบริเวณอก คลื่นไส้ ปั่นป่วนในท้อง เวียนศีรษะ เหน็บชา หรือแขนขาอ่อนแรงได้ เป็นต้น 

                      3. การใช้ยาหรืออาหารเสริมบางชนิด เช่น ยาขยายหลอดลม ยาแก้ไอ ยาแก้แพ้ ยาลดความดันโลหิตสูง ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อบางชนิด เป็นต้น 

                      4. การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ หรือการหยุดดื่มกะทันหันหลังจากดื่มมานาน 

                      5. การใช้สารเสพติดชนิดต่างๆ และการหยุดใช้สารเสพติดเมื่อเสพติดแล้ว

                      6.  โรคหัวใจ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ หลอดเลือดหัวใจตีบ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เป็นต้น แต่ก็จะต้องมีอาการใจสั่นเกิดขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงอาการอื่นๆ เช่น เจ็บแน่นหน้าอก เหนื่อยง่าย เป็นต้น

                       7. โรคหอบหืด มีปอดแตก โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง แต่ก็จะต้องมีอาการเกิดขึ้นเรื่อยๆ และมีอาการอื่นๆ อีก

                        8.มีภาวะไทรอยด์เป็นพิษ ซึ่งมักจะมีอาการน้ำหนักลด เหนื่อยง่าย มือสั่น เหงื่อออก นอนไม่หลับ ถ่ายอุจจาระบ่อย อารมณ์แปรปรวน  เป็นต้น

                        หากอ่าการเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวแล้วหายไป ก็อาจเกิดจากความกลัว ความตื่นเต้น ความเครียด วิตกกังวล ก็ได้ แต่หากอาการยังเกิดขึ้นมาอีกเรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้เกิดจากการทานยาใดๆ หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยอีก ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ

                   

     

                       หากยังคงมีอาการอยู่เรื่อยๆ และกระทบกับการดำเนินชีวิตประจำวัน อาจลองไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุทางกายที่ละเอียดอีกครั้ง หากไม่พบ ควรไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินระดับความรุนแรงของอาการ และรักษาด้วยการใช้ยาและจิตบำบัดค่ะ