มีตุ่มใส แสบๆคันๆ ขึ้นตรงต้นขา เจาะแล้วมีน้ำใสๆ เกิดจากอะไร รักษายังไง เป็นเริมไหม

สวัสดีค่ะ คุณ 223344,

                   โรคเริมนั้น จะเป็นที่ปาก หรือบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนักเท่านั้น จะไม่ได้เป็นที่ผิวหนังบริเวณอื่นของร่างกาย ดังนั้น การมีตุ่มน้ำใสขึ้นที่ต้นขา อาจเกิดจาก

                   1. การติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส ซึ่งมักจะมีอาการคล้ายกับอาการของไข้หวัดนำมาก่อน เช่น ไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตัว ต่อมาผื่นจะขึ้นตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยจะเริ่มจากการเป็นผื่นเม็ดสีแดงก่อน และจะกลายเป็นตุ่มน้ำใสและตกสะเก็ดแห้งไป

                      หากเคยเป็นอีสุกอีใสมาแล้ว ผื่นที่เป็นตุ่มน้ำใสอาจเป็นผื่นของโรคงูสวัด ซึ่งเป็นการกำเริบของเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส โดยผื่นของงูสวัดจะเป็นแค่เฉพาะที่ ไม่ได้เป็นทั่วตัวแบบอีสุกอีใส และมีอาการปวด แสบร้อนบริเวณที่เป็นผื่นร่วมด้วย รวมถึงอาจมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกายร่วมด้วยได้ฃ              

                     2. การโดนแมลงสัตว์กัดต่อย

                     3. การระคายเคืองจากการไปสัมผัสโดนสารเคมีต่างๆ หรือพิษของพืช-แมลงต่างๆ

                     4. การติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด ก็ทำให้เป็นผื่นที่เป็นตุ่มน้ำใสในระยะแรกได้ โดยต่อมาจะกลายเป็นตุ่มหนอง ผิวหนังบริเวณรอบๆ จะบวมแดงอักเสบ มักมีอาการไข้และปวดเมื่อยร่วมด้วย

                     หากผื่นเป็นที่เฉพาะต้นขา ก็ไม่ใช่โรคอีสุกอีใส และหากยังไม่เคยมีประวัติเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน ก็ไม่ใช่โรคงูสวัด ดังนั้น ก็ให้ดูแลตามอาการไปก่อน ได้แก่ การหลีกเลี่ยงการไปแกะหรือเกา ไม่ควรเจาะตุ่มออก เพราะอาจทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้ หากเจาะไปแล้ว ควรทายาฆ่าเชื้อ เช่น โพวิโดน ไอโอดีน เป็นต้น แล้วใช้ผ้าสะอาดปิดไว้ หลีกเลี่ยงการโดนน้ำจนกว่าจะแห้งและตกสะเก็ด งดการทาแป้ง โลชั่นหรืออื่นๆ หากคันมาก อาจทานยาแก้แพ้เพื่อช่วยลดอาการคัน เช่น  ไฮดรอกไซซีน (hydroxyzine) , chlorpheniramine (CPM) เป็นต้น แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ตุ่มไม่หายไป ขยายกว้างมากขึ้น ก็ควรไปพบแพ