หากใส่สายสวนปัสสาวะอยู่ เนื่องจากปัสสาวะไม่ออก สามารถดื่มชาหรือกาแฟได้ไหม

สวัสดีค่ะ คุณผู้ใช้งาน,

                 การใส่สายสวนปัสสาวะนั้น จะใส่เมื่อมีข้อบ่งชี้ เช่น มีภาวะอุดกั้นระบบทางเดินปัสสาวะ เกิดภาวะวิกฤตจำเป็นต้องบันทึกปริมาณปัสสาวะ เช่น ความดันโลหิตตก เป็นต้น ต้องได้รับการผ่าตัดทางเดินปัสสาวะ  การผ่าตัดระบบอวัยวะสืบพันธุ์ที่อยู่ใกล้เคียงกับระบบทางเดินปัสสาวะ การผ่าตัดที่ใช้เวลานาน ผู้ป่วยที่มีแผลบริเวณฝีเย็บหรือบริเวณก้นกบ และกลั้นปัสสาวะไม่ได้ ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องจำกัดการเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน เช่น ผู้ป่วยที่มีภาวะบาดเจ็บรุนแรงบริเวณกระดูกสันหลัง ผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บหลายอวัยวะ เป็นต้น 

                   ส่วนการดูแลเมื่อต้องใส่สายสวนปัสสาวะ ได้แก่

                   - ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร ถ้าไม่มีข้อจำกัดเรื่องการควบคุมปริมาณน้ำดื่ม แต่หากมีข้อจำกัด เช่น เป็นโรคหัวใจ โรคไต ต้องดื่มตามปริมาณที่แพทย์สั่ง

                   - ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนและแอลกอฮอล์เนื่องจากมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ เช่น ชา กาแฟ เหล้า เบียร์ ซึ่งอาจทำให้มีปริมาณปัสสาวะออกมามากขึ้นได้ สำหรับชา และกาแฟ แต่หากต้องการดื่มจริงๆ ก็ให้ดื่มในปริมาณน้อย คือไม่เกิน 1 แก้วต่อวัน ในความเข้มข้นที่ไม่มาก แต่หากดื่มแล้วมีปริมาณปัสสาวะออกมามากขึ้นชัดเจน ก็ควรงดดื่มค่ะ ส่วนแอลกอฮอล์นั้นไม่ควรดื่มเลย เพราะอาจมีผลต่อโรคที่กำลังเป็นอยู่ได้ค่ะ 

                 - แขวนถุงเก็บปัสสาวะให้ต่ำกว่ากระเพาะปัสสาวะประมารณ 30 ซม  และไม่ควรเกิน 40 ซม ระวังการดึงรั้งของสายสวนปัสสาวะ  ดูแลสายสวนปัสสาวะไม่ให้มีการพับงอ

                - ทำความสะอาดอวัยวะเพศและบริเวณขาหนีบอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง

                - ควรเทปัสสาวะในถุงเก็บปัสสาวะอย่างน้อยทุก 3 ชม หรือเมื่อมีปัสสาวะประมาณ 2 ใน 3 ของถุงเก็บปัสสาวะ ล้างมือก่อนและหลังจากเทปัสสาวะทุกครั้ง

               - เปลี่ยนถุงปัสสาวะทุกสัปดาห์หรือเมื่อสกปรกมาก หรือมีการรั่วซึม

               - เปลี่ยนสายสวนปัสสาวะทุกๆ 2 สัปดาห์