มีไข้ มีการติดเชื้อที่ต่อมทอนซิลแล้วต่อมามีอาการปวดข้อ เป็นไข้รูมาติคได้ไหมและต้องตรวจอย่างไร

สวัสดีคะคุณ nop

เรียนอย่างนี้ค่ะ มีภาวะหนึ่งที่มีเรื่องของการติดเชื้ออาจจะเป็นการติดเชื้อทางเดินหายใจหรือการติดเชื้อใด ๆ ก็ตาม ที่อาจจะเกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสหรือ แบคทีเรียก็ได้ค่ะ แล้วร่างกายมีการสร้างเม็ดเลือดขาว หรือ ตัวเม็ดเลือดขาวที่ถูกสร้างขึ้นมาแล้วไปจำกัดเชื้อโรค เมื่อกำจัดเชื้อโรคแล้วตัวเม็ดเลือดขาวที่มีเชื้อโรคอยู่ปรกติจะถูกทำลายที่ม้ามค่ะ เชื้อก็จะถูกทำลายออกไปด้วยค่ะ แต่มีภาวะหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อตัวเม็ดเลือดที่จับกับเชื้อโรคแล้วไปติดอยู่ที่ข้อ แล้วทำให้เกิดมีภาวะที่เป็นทำลายข้อได้ค่ะ ซึ่งเป็นปฏิกิริยา ทางระบบภูมิคุ้มกันค่ะ ทำให้คนไข้มีปัญหาเรื่องข้อบวมปวดข้อมีไข้ได้ค่ะ 

ภาวะนี้ต้องรีบพบแพทย์ค่ะ เนื่องจากอาจจะต้องรีบทำการรักษาก่อนที่จะมีการทำลายของข้อเนื่องจากการอักเสบค่ะ

หรืออาจจะเกิดเนื่องจากการอักเสบของข้อ ในโรคของภูมิแพ้ตัวเองก็ได้ค่ะ หรือ ภูมิคุ้มกันที่ไวเกินไปค่ะ แต่ส่วนใหญ่ต้องมีเรื่องของอาการปวดข้อ มีผื่นตามตัว มีผื่นแพ้แสงร่วมด้วยค่ะ ซึ่งจะเป็นกลุ่มโรคที่เรียกว่า SLE ซึ่งต้องมีการเจาะตรวจเลือดเกี่ยวกับความเข้มข้นเลือด การตรวจปัสสาวะ และการตรวจที่เฉพาะเจาะจงต่อการแพ้ค่ะ

ส่วนเรื่องของรูมาติก เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปรกติของลิ้นหัวใจก่อนค่ะ แล้วเมื่อมีการติดเชื้อทางเดินหายใจแล้วมีเรื่องของเชื้อไปติดที่ลิ้น หรือ ทำให้มีเรื่องของกล้ามเนื้อหัวใจผิดปรกติร่วมด้วยค่ะ 

หมอคิดว่าคุณอาจจะหมายถึงเรื่องของไขข้อรูมาตอยด์ค่ะ ซึ่งมักจะเกิดในผู้หญิงและมักจะมีอายุพอสมควรค่ะ เกิดจากข้อที่มีความผิดปรกติไปค่ะ ซึ่งมักจะเกิดมานานพอสมควรค่ะ จะตรวจได้จากการตรวจร่างกายเนื่องจากข้อจะผิดรูป และเอกซเรย์ค่ะ เนื่องจากจะเห็นข้อมีเรื่องของการผิดรูปไปค่ะ

ดังนั้นหมอแนะนำเรื่องการรักษาการติดเชื้อและรีบไปตรวจเพื่อพบแพทย์ว่าไม่มีปัญหาเรื่องข้ออักเสบจากเรื่องปฏิกิริยาทางระบบภูมิคุ้มกันค่ะ