แฟนผมมีอาการไข้ ปวดศีรษะ ไอแห้ง มีน้ำมูก และมีผื่นคันตามลำตัว เป็นผื่นเล็กๆ มีหัวใสๆ เป็นอะไร และต้องทำอย่างไรบ้างครับ

สวัสดีค่ะ คุณ Ratchnee Love Leo Puwonpa,

                อาการที่มีไข้ และผื่นที่เป็นตุ่มน้ำใสดังกล่าว อาจเกิดจาก 

               1.การติดเชิ้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส อาการ ได้แก่ มีไข้ รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดศีรษะ เจ็บคอ เบื่ออาหาร หลังจากนั้น 1-2 วัน จะเกิดผื่นเป็นจุดแดง ๆ ตามร่างกาย ทั้งใบหน้า หน้าอก หลัง ปาก เปลือกตา อวัยวะเพศ ผื่นแดงเหล่านี้จะเริ่มกลายเป็นตุ่มพองขนาดเล็ก มีน้ำใส ๆ ภายในตุ่ม มักมีอาการคัน หลังจากนั้นตุ่มน้ำจะตกสะเก็ด แล้วค่อยๆ ลอกจางหายภายในเวลาประมาณ 2 สัปดาห์     

            2.การติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด ทำให้เกิดผื่นที่เป็นตุ่มน้ำใสในระยะแรกได้ ต่อมาจึงกลายเป็นตุ่มหนอง ผิวหนังบริเวณรอบๆ บวมแดง มีไข้และปวดเมื่อยตัวร่วม

            3. ผื่นผิวหนังอักเสบ (eczema) โดยระยะแรก ผื่นจะแดงและคัน ผิวหนังใต้ผื่นบวม ต่อมากลายเป็นตุ่มน้ำเล็กๆใสๆ เมื่อตุ่มน้ำแตกออกจะแห้งแล้วกลายเป็นสะเก็ด สาเหตุอาจเกิดจากการแพ้สารบางอย่าง เรียกว่าผื่นแพ้สัมผัส (allergic contact dermatitis) หรือเป็นโรคผิวหนังอักเสบชนิด seborrheic dermatitis) แต่จะไม่มีอาการของไข้ ปวดศีรษะ และมีน้ำมูกดังกล่าว

            หากคุณ Ratchnee ยังไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน ก็น่าจะเกิดจากโรคนี้มากที่สุดค่ะ หรือแม้กระทั่งเคยเป็นมาแล้ว ก็มีโอกาสที่เป็นซ้ำได้ค่ะ (แต่พบได้น้อยมาก) ซึ่งการเป็นอีสุกอีใสในผู้ใหญ่  มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้มากกว่าการเป็นในเด็กเล็ก เช่น ตุ่มน้ำใสเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน จนเป็นตุ่มหนองหรือกลายเป็นฝี ปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ สมองอักเสบ ซึ่งอาจรุนแรงจนเสียชีวิตได้ ดังนั้นหากเป็นอีสุกอีใสเมื่ออายุมากกว่า 12 ปีขึ้นไป ควรทานยาต้านไวรัสค่ะ

            แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการและดูลักษณะของผื่นว่าเป็นโรคอีสุกอีใสหรือไม่ค่ะ เพื่อจะได้ทานยาต้านไวรัสค่ะ และควรป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นด้วยค่ะ