ถามแพทย์

  • หลังให้ยาเคมีบำบัดไป 2 สัปดาห์ ตรวจเลือดพบค่าเม็ดเลือด monocyte สูงกว่าปกติ ต้องรีบกลับไปพบแพทย์ไหม

  •  Auai Siriso
    สมาชิก
    ไปตรวจหาเม็ดเลือดขาวเม็ดเลือดเเดงหลังให้คีมีบำบัดไป 2 อาทิตย์ ผลเลือดเป็นดังนี้ค่ะ WBC 3.63 ×10`3 PMN 58.6% Lymphocyte 27.2% Monocyte 12.4% Eosinophii 1.5% Bosophill 0.3% RBC count 4.08 Hemoglobin (Hb) 11.7 Hematocrit(Hct) 35.9% ต้องรีบกลับไปพบเเพทย์ผู้รักษาไหมคะ

     สวัสดีค่ะ คุณ Auai Siriso,

                      ยาเคมีบำบัดเป็นยาที่ออกฤทธิ์ทำลายทั้งเซลล์มะเร็งและเซลล์ปกติที่มีการแบ่งตัวเร็ว เช่น เซลล์เยื่อบุทางเดินอาหาร เซลล์รากผม เซลล์ไขกระดูก เป็นต้น ซึ่งเซลล์ไขกระดูกมีหน้าที่ผลิตเม็ดเลือดชนิดต่างๆ ดังนั้นจึงมีผลทำให้เม็ดเลือดในกระแสเลือดลดลงกว่าปกติได้ โดยผลที่ทำให้ค่าเม็ดเลือดลดลงนั้น มักเกิดขึ้นในช่วง 8-14 วันหลังจากให้ยาเคมีบำบัด หรือเรียกว่าช่วง nadir phase

                     ดังนั้นค่าเม็ดเลือดของคุณ Auai Siriso พบว่ามีค่าเม็ดเลือดขาวรวมต่ำกว่าปกติ ซึ่งถือว่าเป็นผลจากยาเคมีบำบัดได้ แต่ก็ถือว่าต่ำไปเพียงเล็กน้อย ซึ่งค่าเม็ดเลือดขาวในระดับนี้ ถือว่ายังไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะติดเชื้อแต่อย่างใด

                     ส่วนค่าเม็ดเลือดขาวส่วนจำนวนเม็ดเลือดขาวชนิดโมโนไซต์ (monocytes) จะมีปริมาณป กติอยู่ที่ 0.2–1.0 ×10 9/l  หรืออยู่ที่ 2%–10% ของค่าเม็ดเลือดขาวทั้งหมด

                    ดังนั้นหากค่าอยู่ที่ 12% เมื่อคำนวณจากค่าเม็ดเลือดขาวโดยรวม จะได้ค่าที่ 0.4 x 10 9/l ดังนั้นจึงถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติดีค่ะ

                    แต่หากเม็ดเลือดขาวชนิดโมโนไซต์ (momocytes) มีค่าสูงกว่าปกติ มักพบได้ในการติดเชื้อต่างๆ เช่น ติดเชื้อไวรัส EBV ที่ทำให้เกิดโมโนนิวคลีโอสิส ติดเชื้อวัณโรค เชื้อมาลาเรีย เชื้อซิฟิลิส เป็นต้น และยังพบได้ในโรคภูมิแพ้ตัวเองชนิดต่างๆ รวมถึงโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวบางชนิด และยังพบในกรณีที่เพิ่งหายจากการเป็นโรคติดเชื้อต่างๆ นอกจากนี้ยังพบว่าในคนอ้วน อาจมีค่าสูงกว่าปกติเล็กน้อยได้ด้วย

                       ดังนั้นจึงยังไม่จำเป็นต้องรีบกลับไปพบแพทย์ค่ะ แต่หากมีอาการไข้ หรืออาการผิดปกติอื่นๆ เช่น อาเจียน ท้องเสีย ไปอ หอบเหนื่อย เป็นต้น จึงให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็วค่ะ