ถามแพทย์

  • ไอเรื้อรังมา 2-3 สัปดาห์แล้ว และใต้คางด้านขวาบวม ควรไปหาหมอไหม

  •  Aoao Jp
    สมาชิก

    มีอาการไอเรื้อรัง มา 2-3 สัปดาห์แล้วค่ะ เริ่มจากเป็นไข้ มีเสมหะ ไอ ไปหาหมอรอบแรก ไข้หาย เสมหะลดลง แต่ยังคงไออยู่ ไม่ได้ไอหนัก แต่ไอแบบคันคอ มีเหมสะบ้างเล็กน้อย ไปหาหมอครั้งล่าสุด พบต่อมน้ำเหลืองใต้คางด้านขวาโต ลองคล้ำเอง มีก้อน นิ่มๆ ยุ่นๆ ไม่แข็งค่ะ ได้ยามารับประทาน 5 วัน ก็ยังไม่ยุบ ไอก็ยังไม่หายค่ะ  ควรไปหมอที่โรงพยาบาล หรือ ทานยาจากคุณหมอที่รักษาไปเรื่อยๆก่อนค่ะ (หมอที่ไปรักษาเป็นหมอคลีนิคค่ะ) อาการดังกล่าวเป็นอะไรได้บ้างค่ะ ร้ายแรงไหม ชอบคุณมากค่ะ 

    สวัสดีครับ คุณ Aoao Jp

    อาการไอมาเกิน 2 สัปดาห์นี้ทางการแพทย์ถือว่าเป็นการไอเรื้อรัง ที่นานเกินปกติ จึงเป็นไปได้ว่ามีการติดเชื้อที่ลึกลงไปในทางเดินหายใจส่วนล่าง ซึ่งในกรณี สาเหตุที่พบบ่อยนั้นได้แก่

    1. หลอดลมอักเสบ

    2. หอบหืด

    3. ปอดอักเสบ หรือ ปอดบวม

    4. วัณโรค

    5. ผลจากการสูบบุหรี่

    6. โรคอื่นๆ เช่น โรคซาคอยโดซิส

    ถึงตรงนี้ คงต้องพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอดโดยเฉพาะในโรงพยาบาลต่อไปดีกว่าครับ เพื่อทำการตรวจเพิ่มเติม (เช่น เอกซเรย์ปอด) เพื่อหาสาเหตุของการไอเรื้อรัง ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อบางอย่างที่ไม่ตอบสนองกับยาได้ครับ

    สวัสดีครับ คุณ Aoao Jp

     

    อาการไอมาเกิน สัปดาห์นี้ทางการแพทย์ถือว่าเป็นการไอเรื้อรัง ที่นานเกินปกติ จึงเป็นไปได้ว่ามีการติดเชื้อที่ลึกลงไปในทางเดินหายใจส่วนล่าง ซึ่งในกรณี สาเหตุที่พบบ่อยนั้นได้แก่

    1. หลอดลมอักเสบ

    2. หอบหืด

    3. ปอดอักเสบ หรือ ปอดบวม

    4. วัณโรค

    5. ผลจากการสูบบุหรี่

    6. โรคอื่นๆ เช่น โรคซาคอยโดซิส

     

    ถึงตรงนี้ คงต้องพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอดโดยเฉพาะในโรงพยาบาลต่อไปดีกว่าครับ เพื่อทำการตรวจเพิ่มเติม (เช่น เอกซเรย์ปอด) เพื่อหาสาเหตุของการไอเรื้อรัง ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อบางอย่างที่ไม่ตอบสนองกับยาได้ครับ