ถามแพทย์

  • เป็นโรคไฮเปอร์ไทรอยด์ แต่ยังควบคุมได้ไม่ดี เป็นเพราะทานยาไม่ตรงเวลาหรือไม่ และยาที่แพทย์ปรับมาให้ใหม่ จะมีผลข้างเคียงเรื่องปวดหัวได้หรือเปล่า

  •  PaniPhak Phawaphutanon
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ หนูเป็นไฮเปอร์ไทรอยด์มีคำถามดังนี้นะคะ -เดือนก.พ. 63 ไปตรวจเลือดและพบแพทย์ค่าเลือด T3 T4 อยู่ในระดับปกติ TSH ต่ำกว่าปกตินิดหน่อย ตรวจอีกที เดือน ก.ย. 63 ค่าเลือดผิดปกติทุกตัว T3 T4 =เกิน, TSH ต่ำกว่าเดิมเยอะ และ น้ำหนักลดลง 5kg. ภายใน1-2เดือนก่อนพบแพทย์ *จากค่าเลือดนี้เป็นเพราะหนูกทานยาไม่ตรงเวลา เช้าบ้าง เย็นบ้างเกี่ยวไหมคะ และ ควรทานแบบเป๊ะๆไหม เช่น 7โมงเช้าทุกวัน และหนูเลิกทางยาคลุมได้1-2เดือนก่อนตรวจในเดือน ก.ย.เกี่ยวไหมคะ* -หลังจากการพบแพทย์ครั้งนั้น หมอปรับยาให้จากเดิมทาน propylthiouracil 50g. 1เม็ด/วัน เป็นMethimazole 5mg. 3เม็ด/วัน หนูทานได้ 2 วัน มีอาการปวดหัวทั้ง2 วัน *เป็นผลข้างเคียงของยาหรือป่าวคะ แล้วจะค่อยๆหายไป หรือ หนูควรแจ้งแพทย์ที่รักษาคะ* ขอบคุณค่ะ
    PaniPhak Phawaphutanon  PaniPhak Phawaphutanon
    สมาชิก
    ขอแก้ไขหน่วยยาเป็น mg.ทั้ง2ตัวนะคะ 🙏
    PaniPhak Phawaphutanon  PaniPhak Phawaphutanon
    สมาชิก
    ขอแก้ไขหน่วยยาเป็น mg.ทั้ง2ตัวนะคะ 🙏
    PaniPhak Phawaphutanon  พญ.นรมน
    สมาชิก

     สวัสดีค่ะคุณ PaniPhak Phawaphutanon

    ภาวะไฮเปอร์ไทรอยด์ดังกล่าวมานั้น เป็นภาวะที่ร่างกายมีการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ออกมามากผิดปกติ ซึ่งมีสาเหตุได้หลายอย่าง เช่นภูมิคุ้มกันในร่างกายตัวเองผิดปกติ หรือมีก้อนเนื้อที่สร้างฮอร์โมน อาจทำให้เกิดอาการ ใจสั่น เวียนศีรษะ มือสั่น เหงื่อออกมาก กินจุ หิวบ่อย แต่น้ำหนักลด ท้องเสีย ตาโปน อาจจะร้ายแรงก็คือใจสั่นจนมีหัวใจเต้นผิดจังหวะได้

    ดังนั้นเป็นภาวะที่ต้องทำการรักษาและควบคุมด้วยยาลดการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์เช่น propylthiouracil หรือ Methimazole โดยใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์และปรับยาโดยแพทย์เท่านั้น

    การกินยาไม่ตรงเวลาดังกล่าวมานั้น จริงๆน่าจะมีผลต่อยาได้น้อย กรณีเป็นยาไทรอยด์ค่ะ แต่แนะนำให้กินให้ตรงเวลาทุกวันเพื่อป้องกันการลืมและให้ระดับยาคงที่จะดีกว่า ส่วนการปรับยาเปลี่ยนมาเป็น Methimazole นั้น ยาตัวดังกล่าวเป็นยาที่ใช้ในการรักษาไทรอยด์ทำงานมากเกินอย่างแพร่หลาย มีผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยๆเช่น  ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่หากเป็นไม่มาก ทนได้ กินยาแก้ปวดแล้วบรรเทาอาการได้ ไม่มีความจำเป็นต้องหยุดยา แต่สามารถแจ้งแพทย์ผู้รักษาให้ทราบและเฝ้าติดตามผลข้างเคียงของยาเป็นระยะ

    ผลข้างเคียงจากยาที่อันตราย ที่ถ้ามีควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเช่น เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก ขาหรือเท้ามีอาการบวม ชา หรือรู้สึกเหมือนเข็มแทง น้ำหนักลดอย่างไม่ทราบสาเหตุ มีภาวะดีซ่านคือมีอาการตัวหรือตาเหลือง หรือมีผื่นแดงคันที่ผิวหนังอย่างรุนแรง มีจำนวนเม็ดเลือดขาวลดลงชั่วคราวทำให้มีไข้ ไอ เจ็บคอมีแผลในปากเป็นบ่อยๆ เลือดออกง่ายได้