มีอาการบริเวณหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศบวมแดง บวมมาก แต่ไม่เจ็บ ก่อนหน้านี้เคยใส่และถอดสายสวนปัสสาวะ และตอนนี้ใช้ยา furosemide อยู่ เกิดจากอะไร

เมื่อสักครู่ส่งคำถามมา แต่เนื่องจากว่า เข้ามาที่นี่เป็นครั้งแรก ไม่แน่ใจว่า คำถามถูกส่งถึงคุณหมอหรือไม่...ขอเล่าอาการอีกครั้งนะครับ

....ผมอายุ 78 โรคประจำตัวคือ ต่อมลูกหมากโต เส้นเลือดหัวใจตีบใส่ขดลวดอยู่ 2 ขด

และมีน้ำตาลในเลือด ตรวจเลือดเมื่อวานนี้ วัดค่าได้ 131....

เมื่อต้นเดือนที่แล้ว (ม.ค.64) ผมมีอาการปัสสาวะปนเลือด ไม่ที่ฉุกเฉิน รพ.รามฯ ได้รับการรักษาโดยการสอดสายสวน และน้ำเกลือล้างกระเพราะปัสสาวะ และนัดส่องกล้อง กลางเดือนนี้ (กพ.64)

ปัญหาที่เกิดคือหลังจากการถอดสายสวน ผมเกิดระบมอักเสบ ปวดแสบทางเดินปัสสาวะมาจนกระทั่งบัดนี้

เมื่อวานนี้ (26 กพ.64) มีอาการปวดบวมที่ขาถึงข้อเท้า เลยไปขอพบแพทย์ก่อนเวลานัด เพื่อดูอาการปวดบวม  แพทย์บอกว่ามีน้ำสะสมเกินไป ให้ยามาตัวหนึ่งชื่อ "furosemide"....

กินเมื่อเช้าไปครึ่งเม็ด ก็ฉี่บ่อยมาก มีแสบๆคันๆในท่อปัสสาวะด้วย

ตกบ่ายเมื่อสักครู่ สังเกตุดู มันเกิดเห็นความผิดปกติครับ  บริเวณหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศมันบวมแดง  บวมมากครับ แต่ไม่เจ็บ เพียงแต่มีอาการคันที่ปลายๆท่อปัสสาวะด้านใน (หนังหุ้มปลายเปิดธรรมชาติ)

ผมเกิดความกังวลว่ามันเกิดอะไรขึ้น  เกิดจากการแพ้ยา "furosemide" หรือมีการติดเชื้อจากสายสวน เมื่อต้นเดือนที่แล้ว เพราะมันมีอาการต่อเนื่องมาโดยตลอด

กว่าจะได้พบแพทย์อีกสองอาทิตย

จึงเรียนถามเพื่อคลายความวิตกกังวลครับ