Tamoxifen (ทาม็อกซิเฟน)
Tamoxifen (ทาม็อกซิเฟน) คือยาที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งเต้านม ตัวยาออกฤทธิ์โดยเข้าไปขัดขวางการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งส่งผลให้มะเร็งเต้านมขยายใหญ่ขึ้น ยานี้ใช้ได้กับทั้งผู้ชายและผู้หญิง มักใช้ในผู้ป่วยที่มีการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งจากเต้านมไปยังอวัยวะอื่น ๆ หรือเพิ่งผ่านการผ่าตัดและรักษาด้วยวิธีรังสีบำบัด และใช้สำหรับป้องกันโรคมะเร็งเต้านมในผู้ที่มีความเสี่ยงสูง นอกจากนี้ อาจใช้รักษาโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์
เกี่ยวกับยา Tamoxifen
กลุ่มยา | ฮอร์โมนรักษาโรคมะเร็ง |
ประเภทยา | ยาตามใบสั่งแพทย์ |
สรรพคุณ | ยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งเต้านม และป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านม |
กลุ่มผู้ป่วย | ผู้ใหญ่ |
รูปแบบของยา | ยารับประทาน |
คำเตือนการใช้ยา Tamoxifen
- หลีกเลี่ยงการใช้ยา หากผู้ป่วยแพ้ยานี้
- หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ในการลดความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านม หากผู้ป่วยกำลังใช้ยาละลายลิ่มเลือด เช่น ยาวาร์ฟาริน เป็นต้น
- การใช้ยานี้อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งมดลูก โรคหลอดเลือดสมอง และภาวะมีลิ่มเลือดในปอดได้ จึงควรปรึกษาแพทย์ถึงความเสี่ยงดังกล่าวก่อนใช้ยา
- แจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนใช้ยานี้ หากผู้ป่วยมีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ต้อกระจก หรือเคยเข้ารับการรักษาภาวะหลอดเลือดที่ขาและปอดอุดตัน รวมทั้งผู้ที่ปัจจุบันป่วยเป็นโรคตับ มีไขมันในเลือดสูง หรือกำลังอยู่ในระหว่างการเข้ารับเคมีบำบัดและรังสีบำบัด
- ในระหว่างที่ใช้ยานี้ ผู้ป่วยอาจต้องเข้ารับการตรวจร่างกาย การตรวจแมมโมแกรม และการตรวจเลือดเป็นประจำ รวมทั้งควรหมั่นคลำหาก้อนเนื้อผิดปกติบริเวณเต้านมอย่างสม่ำเสมอ
- หากต้องเข้ารับการผ่าตัด พักรักษาตัวบนเตียง หรือเข้ารับการทดสอบทางการแพทย์ ควรแจ้งให้แพทย์ผู้รักษาทราบว่ากำลังใช้ยานี้ เพราะอาจต้องหยุดใช้ยาชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย
- สตรีมีครรภ์ห้ามใช้ยานี้ ก่อนใช้ยาแพทย์อาจแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถใช้ยานี้ได้ และควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์หรือใช้วิธีคุมกำเนิดในระหว่างที่ใช้ยาและหลังจากการใช้ยาอย่างน้อย 2 เดือน เพราะยานี้อาจก่อทำให้เกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้
- หญิงที่อยู่ในช่วงให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการใช้ยา เพราะปัจจุบันไม่อาจยืนยันได้ว่าตัวยานี้จะไม่ซึมผ่านน้ำนมและเป็นอันตรายต่อเด็ก อีกทั้งการใช้ยานี้อาจทำให้มารดาผลิตน้ำนมได้ช้าลง
-
การใช้ยานี้อาจทำให้ประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดและวิธีคุมกำเนิดด้วยการใช้ฮอร์โมนลดลง จึงควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีการคุมกำเนิดอื่น ๆ ที่ไม่ต้องใช้ฮอร์โมน เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ระหว่างการรักษา
ปริมาณการใช้ยา Tamoxifen
ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง รับประทานยา 20 มิลลิกรัม/วัน เป็นระยะเวลา 5 ปี
รักษาโรคมะเร็งเต้านม รับประทานยา 20 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง หรือแบ่งรับประทานวันละ 2 ครั้ง ปริมาณยาสูงสุดไม่เกินวันละ 40 มิลลิกรัม
รักษาภาวะไข่ตกบกพร่อง รับประทานยา 20 มิลกรัม/วัน ในวันที่ 2-5 ของรอบเดือน สามารถเพิ่มปริมาณยาในรอบเดือนถัดไปได้หากจำเป็น ปริมาณยาสูงสุดไม่เกิน 80 มิลลิกรัม/วัน ส่วนหญิงที่มีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอนั้นเริ่มรับประทานยาวันใดก็ได้ และควรรับประทานยาครั้งต่อไปในอีก 45 วัน
การใช้ยา Tamoxifen
- ยานี้เป็นยาที่ควรใช้ภายใต้คำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ควรรับประทานยาในปริมาณน้อยกว่าหรือมากกว่าที่แนะนำ ปริมาณการใช้ยาขึ้นอยู่กับจุดประสงค์การใช้ยาและการตอบสนองต่อยาของผู้ป่วย
- รับประทานยาก่อนหรือหลังอาหารก็ได้
- ควรใช้ยาอย่างสม่ำเสมอตามปริมาณและระยะเวลาที่แพทย์กำหนด เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการรักษาสูงสุด
- หากลืมรับประทานยา ควรรับประทานทันทีที่นึกได้ หากใกล้ถึงเวลารับประทานยาครั้งถัดไป ให้ข้ามไปรับประทานในครั้งถัดไปโดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
- ยานี้อาจซึมเข้าสู่ผิวหนังหรือปอดได้ สตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือสูดดมละอองของยาเพื่อความปลอดภัย
- ควรเก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง ห่างจากความชื้น ความร้อน อากาศเย็น และห้ามนำไปแช่แข็งโดยเด็ดขาด
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Tamoxifen
การใช้ยานี้อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป ได้แก่ อาการร้อนวูบวาบ มีของเหลวไหลออกมาจากช่องคลอดผิดปกติ และน้ำหนักลด หากอาการเหล่านี้แย่ลงหรือพบผลข้างเคียงรุนแรงต่อไปนี้ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
- อาการแพ้ยา เช่น ลมพิษ หายใจไม่ออก ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือคอบวม เป็นต้น
- เกิดการเปลี่ยนแปลงของรอบเดือน
- มีของเหลวหรือเลือดไหลออกมาจากช่องคลอดผิดปกติ
- ปวดบริเวณเชิงกราน
- มีก้อนเนื้อผิดปกติบริเวณเต้านม
- มีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น เช่น มองไม่ชัด การมองเห็นแคบลง ปวดตา หรือมองเห็นแสงลักษณะคล้ายรุ้งรอบ ๆ แสงไฟ
- มีปัญหาเกี่ยวกับตับ ส่งผลให้มีอาการคลื่นไส้ ปวดท้องส่วนบน รู้สึกคันผิดปกติ รู้สึกเหนื่อย ไม่อยากอาหาร ปัสสาวะมีสีเข้ม อุจจาระมีสีซีด หรือเป็นดีซ่าน
- อาการของภาวะแคลเซียมในเลือดสูง เช่น อาเจียน หิวน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย ท้องผูก กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดกระดูก ไม่มีแรง รู้สึกเหนื่อย มีอาการมึนงง เป็นต้น
การใช้ยา Tamoxifen อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองหรือเกิดลิ่มเลือดได้ ผู้ใช้ยาควรหมั่นสังเกตอาการของตนเอง หากพบสัญญาณผิดปกติเหล่านี้ควรไปพบแพทย์ทันที
- อาการของโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่ รู้สึกอ่อนแรงหรือชาที่ร่างกายซีกในซีกหนึ่งอย่างเฉียบพลัน ปวดศีรษะอย่างเฉียบพลันรุนแรง พูดไม่ชัด มีปัญหาเกี่ยวกับสายตาและการทรงตัว
- อาการของภาวะลิ่มเลือดในปอด ได้แก่ เจ็บหน้าอก มีอาการไออย่างเฉียบพลัน ไอเป็นเลือด หายใจเสียงดังหวีด หายใจถี่ เป็นต้น
- อาการของภาวะลิ่มเลือดที่ขา ได้แก่ ปวด บวม ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีแดงหรือรู้สึกร้อนที่ขาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง