Adenosine (อะดีโนซีน)
Adenosine (อะดีโนซีน) เป็นสารเคมีที่พบได้ในเซลล์ของคนและมีการสังเคราะห์ขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ มักนำมาผสมกับสารฟอสเฟตเพื่อสร้างสารประกอบชนิดอื่น ๆ มีกลไกการออกฤทธิ์ช่วยยับยั้งความผิดปกติของวงจรในหัวใจที่เป็นเหตุให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ ใช้รักษาภาวะหัวใจเต้นผิดปกติบางชนิด รวมทั้งใช้ตรวจการทำงานของหัวใจและวินิจจัยภาวะหัวใจเต้นเร็วที่เกิดในหัวใจห้องบนแบบชั่วคราว นอกจากนี้ ยังอาจใช้รักษาโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์
ยา Adenosine มีข้อห้ามใช้และอาจเกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้น การใช้ยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรเสมอ
เกี่ยวกับยา Adenosine
กลุ่มยา | ยารักษาโรคหัวใจ |
ประเภทยา | ยาตามใบสั่งแพทย์ |
สรรพคุณ | รักษาภาวะหัวใจเต้นผิดปกติบางชนิด ใช้ในการตรวจการทำงานของหัวใจและวินิจฉัยภาวะหัวใจเต้นเร็วที่เกิดในหัวใจห้องบนบางชนิด |
กลุ่มผู้ป่วย | ผู้ใหญ่ |
รูปแบบของยา | ยาฉีด |
คำเตือนในการใช้ยา Adenosine
- แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา หากมีประวัติแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยาชนิดนี้ รวมถึงการแพ้ยาชนิดอื่น อาหาร หรือสารใด ๆ
- แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยานี้ หากผู้ป่วยมีภาวะหัวใจเต้นผิดปกติชนิดที่ไม่สามารถใช้เครื่องกระตุ้นคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้ มีอาการเจ็บหน้าอกชนิดไม่คงที่ เป็นโรคเก๊าท์ หรือโรคเกี่ยวกับการหายใจ เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหืด เป็นต้น
- แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยาทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่ ทั้งยาที่แพทย์สั่ง ยาที่ซื้อใช้ด้วยตนเอง วิตามิน อาหารเสริม และสมุนไพร เพราะมียาหลายชนิดที่อาจทำปฏิกิริยากับยานี้และก่อให้เกิดผลข้างเคียงหรือยามีประสิทธิภาพลดลง โดยเฉพาะยาอะมิโนฟิลลีน ยาไดไพริดาโมล ยาขยายหลอดลม และยาที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน
- แจ้งให้แพทย์ พยาบาล เภสัชกร และทันตแพทย์ทราบว่ากำลังใช้ยานี้ ก่อนเข้ารับการรักษาใด ๆ
- ระหว่างที่ใช้ยานี้ ผู้ป่วยจะได้รับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเป็นประจำ
- ระหว่างที่ใช้ยานี้ ผู้ป่วยอาจได้รับการตรวจความดันโลหิตตามที่แพทย์สั่ง เพราะยาอาจทำให้ระดับความดันโลหิตเพิ่มสูงหรือลดต่ำลงได้
- ยานี้อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจขาดเลือดและภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติอย่างรุนแรง ซึ่งอาจส่งผลกระทบที่อันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ถึงความเสี่ยงดังกล่าวก่อนใช้ยานี้
- ระหว่างที่ใช้ยานี้ ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและช็อกโกแลต
- ผู้ที่ตั้งครรภ์ วางแผนมีบุตร หรือกำลังให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ถึงข้อดีและข้อเสียของยาก่อนใช้ยานี้
ปริมาณการใช้ยา Adenosine
ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยา ดังนี้
ใช้ในการตรวจการทำงานของหัวใจ
ผู้ใหญ่ หยดยาเข้าทางหลอดเลือดดำปริมาณ 140 ไมโครกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/นาที เป็นเวลา 6 นาที (ปริมาณทั้งหมด 0.84 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม) และฉีดนิวไคลด์กัมมันตรังสี (Radionuclide) หลังจากที่การหยดยาเข้าหลอดเลือดผ่านไป 3 นาที
วินิจฉัยภาวะหัวใจเต้นเร็วที่เกิดในหัวใจห้องบนแบบชั่วคราว
ผู้ใหญ่ ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำปริมาณเริ่มต้น 3 มิลลิกรัม โดยฉีดเข้าทางหลอดเลือดส่วนกลางหรือหลอดเลือดดำใหญ่ส่วนปลายอย่างรวดเร็วประมาณ 2 วินาที หากจำเป็นให้ฉีดยาเพิ่มอีก 6 มิลลิกรัมหลังจากผ่านไป 1-2 นาที จากนั้นฉีดยาเพิ่มอีก 12 มิลลิกรัม หลังจากผ่านไป 1-2 นาที
รักษาภาวะหัวใจเต้นเร็วที่เกิดในหัวใจห้องบนแบบชั่วคราว
ผู้ใหญ่ ฉีดยาปริมาณเริ่มต้น 3 มิลลิกรัม เข้าทางหลอดเลือดส่วนกลางหรือหลอดเลือดดำใหญ่ส่วนปลายอย่างรวดเร็วประมาณ 2 วินาที หากจำเป็นให้ฉีดยาเพิ่มอีก 6 มิลลิกรัมหลังจากผ่านไป 1-2 นาที จากนั้นฉีดยาเพิ่มอีก 12 มิลลิกรัม หลังจากผ่านไป 1-2 นาที
อีกทางเลือกหนึ่งคือ ฉีดยาปริมาณยาเริ่มต้น 6 มิลลิกรัม หากจำเป็นให้ฉีดยาเพิ่มอีก 12 มิลลิกรัม 2 ครั้ง ในช่วงระยะเวลา 1-2 นาที และฉีดน้ำเกลือล้างในแต่ละครั้ง
เด็กน้ำหนักน้อยกว่า 50 กิโลกรัม ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำปริมาณเริ่มต้น 50-100 ไมโครกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม อาจเพิ่มปริมาณยาอีก 50-100 ไมโครกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ในช่วง 1-2 นาที จนกว่าคลื่นไฟฟ้าหัวใจจะเป็นปกติ ปริมาณยาสูงสุดไม่เกิน 300 ไมโครกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
อีกทางเลือกหนึ่งคือ ฉีดยาปริมาณเริ่มต้น 100 ไมโครกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ปริมาณยาสูงสุดไม่เกิน 6 มิลลิกรัม หากจำเป็นให้ฉีดยาเพิ่มอีก 200 ไมโครกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ปริมาณสูงสุดไม่เกิน 12 มิลลิกรัม
เด็กน้ำหนักตัวมากกว่าหรือเท่ากับ 50 กิโลกรัม ใช้ยาในปริมาณเท่ากันกับผู้ใหญ่
การใช้ยา Adenosine
- ใช้ยาตามฉลากและตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด หากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ
- ห้ามให้ผู้อื่นใช้ยานี้ และห้ามใช้ยาของผู้อื่น
- แจ้งให้แพทย์ทราบหากอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง
- หากสงสัยว่าตนใช้ยาเกินกว่าปริมาณที่กำหนด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
- ในกรณีที่ลืมรับประทานยาตามเวลาที่กำหนด ให้ติดต่อโรงพยาบาลหรือไปพบแพทย์ทันที
- ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถึงวิธีเก็บยาและวิธีกำจัดยาที่ไม่ได้ใช้แล้วอย่างเหมาะสม
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Adenosine
การใช้ยา Adenosine อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง ได้แก่ เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ ปวดท้อง และผิวหนังแดง หากอาการดังกล่าวไม่หายไปหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์
หากพบผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการใช้ยา Adenosine ดังต่อไปนี้ ควรหยุดใช้ยาและไปพบแพทย์ทันที
- อาการแพ้ยา เช่น ลมพิษ หายใจลำบาก หน้าบวม ริมฝีปากบวม ลิ้นบวม คอบวม ผื่นคัน ผิวหนังบวมแดง พุพอง ผิวลอกพร้อมกับมีไข้หรือไม่มีไข้ แน่นหน้าอกหรือลำคอ หายใจเสียงดังหวีด มีปัญหาในการหายใจหรือการพูด เสียงแหบ เป็นต้น
- มีอาการอ่อนแรงด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย มีปัญหาในการคิดหรือการพูด มีปัญหาในการทรงตัว มองเห็นไม่ชัด กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรงครึ่งซีก
- ความดันโลหิตสูงหรือต่ำ ทำให้มีอาการบางอย่าง เช่น ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ หมดสติ การมองเห็นเปลี่ยนแปลง เป็นต้น
- เจ็บหรือแน่นหน้าอก
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจเต้นช้าหรือเร็วผิดปกติ
- หายใจไม่อิ่ม
- ชัก
- เจ็บคอหรือขากรรไกร
นอกจากนี้ หากพบอาการผิดปกติใด ๆ เพิ่มเติม ควรแจ้งให้แพทย์ทราบด้วยเช่นกัน