Benzyl Alcohol

Benzyl Alcohol

Benzyl Alcohol (เบนซิลแอลกอฮอล์) เป็นแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งที่นำมาใช้ทำยารักษาเหา ซึ่งเหาเป็นแมลงขนาดเล็กที่เกาะอยู่ตามหนังศีรษะจนก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือคัน ตัวยาจะออกฤทธิ์ฆ่าเหาโดยจะไปอุดกั้นช่องหายใจของเหา ทำให้ขาดอากาศหายใจภายใน 10 นาทีและตายลงในที่สุด แต่ยานี้ไม่สามารถฆ่าไข่เหาได้ จึงอาจต้องใช้ยาซ้ำอีกครั้ง

นอกจากนี้ ผู้ป่วยอาจต้องใช้ยาร่วมกับวิธีอื่น ๆ เพื่อกำจัดเหาและลดการแพร่เหาไปสู่ผู้อื่น เช่น การใช้หวีสางเหาหรือไข่เหาออกจากเส้นผมและหนังศีรษะหลังล้างยาออกจากศีรษะ หรือหมั่นทำความสะอาดสิ่งของที่ใช้กับเส้นผมหรือศีรษะด้วยน้ำร้อนและเช็ดให้แห้งทุกครั้งก่อนใช้งาน เป็นต้น

Lice,In,Hair,And,Comb,On,White,Background

เกี่ยวกับยา Benzyl Alcohol

กลุ่มยา ยาฆ่าเหา (Pediculicide)
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่หาซื้อได้เอง
สรรพคุณ รักษาเหา
กลุ่มผู้ป่วย เด็กที่มีอายุมากกว่า 6 เดือน และผู้ใหญ่
รูปแบบของยา ยาใช้ภายนอก
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์
และผู้ให้นมบุตร
Category B จากการศึกษาในสัตว์ ไม่พบความเสี่ยงในการทำให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์สัตว์ แต่ไม่มีการศึกษาในมนุษย์หรืออาจพบผลไม่พึงประสงค์ในสัตว์ และยังไม่พบความเสี่ยงในมนุษย์เมื่อใช้ในช่วงสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์ รวมทั้งไม่มีหลักฐานทางการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า มีความเสี่ยงเมื่อใช้ในช่วงหลังเดือนที่สามเป็นต้นไป ดังนั้น สตรีมีครรภ์หรือวางแผนจะตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ถึงประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยา เช่นเดียวกันกับผู้ที่กำลังให้นมบุตร เนื่องจากยังไม่ทราบแน่ชัดว่าตัวยาจะซึมผ่านน้ำนมมารดาและก่อให้เกิดอันตรายต่อทารกหรือไม่  

 

คำเตือนในการใช้ยา Benzyl Alcohol

เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้ยา ผู้ป่วยควรระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้

  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา หากมีประวัติแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยาชนิดนี้ รวมถึงยาและสารอื่น ๆ เพราะยาอาจมีส่วนประกอบที่ทำให้เกิดอาการแพ้ยาหรือเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ 
  • แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยา วิตามิน หรือสมุนไพรทุกชนิดที่ผู้ป่วยกำลังใช้อยู่ เพราะยาบางชนิดอาจทำปฏิกิริยากับยานี้ได้
  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการใช้ยา หากผู้ป่วยมีปัญหาสุขภาพผิวหนังหรือผิวหนังแพ้ง่าย  
  • การเกาหนังศีรษะแรง ๆ หรือเกาเป็นประจำอาจทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียที่หนังศีรษะ จึงควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากหนังศีรษะของผู้ป่วยมีหนองหรือผื่นแดงที่แย่ลง เพราะอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อได้ 
  • ผู้ป่วยที่เป็นเด็กอาจไวต่อการเกิดผลข้างเคียงจากตัวยามากกว่าช่วงวัยอื่น จึงควรแจ้งอายุของผู้ป่วยให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถใช้ยาได้โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะเด็กทารก
  • ไม่ควรใช้ยา Benzyl Alcohol ในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือน 

ปริมาณการใช้ยา Benzyl Alcohol

ปริมาณการใช้ยาในเด็กที่มีอายุมากกว่า 6 เดือน และผู้ใหญ่จะขึ้นอยู่กับความยาวของเส้นผมแต่ละคน โดยแพทย์อาจพิจารณาให้ใช้ยา Benzyl Alcohol ความเข้มข้น 5 เปอร์เซ็นต์ ทาที่หนังศีรษะและเส้นผมทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทั้งนี้ ผู้ป่วยอาจต้องใช้ยาซ้ำในอีก 1 สัปดาห์ให้หลัง เนื่องจากตัวยาไม่สามารถฆ่าไข่เหาได้ จึงต้องเว้นระยะให้เหาฟักตัวออกมาก่อน 

การใช้ยา Benzyl Alcohol

วิธีการใช้ยาเพื่อความปลอดภัย มีดังนี้

  • ใช้ยาตามคำแนะนำบนฉลากหรือตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ควรใช้ยาในปริมาณและระยะเวลาที่แพทย์กำหนด ไม่ปรับเพิ่มหรือลดปริมาณยาด้วยตนเอง
  • ผู้ป่วยที่เป็นเด็กควรให้ผู้ปกครองทายาให้ ไม่ควรใช้ยาด้วยตัวเอง เพราะอาจทำให้ยาเข้าตา จมูก หรือปาก
  • ควรทายาให้ทั่วตามเส้นผมและหนังศีรษะ เพื่อกำจัดเหาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากใช้ยาเสร็จแล้ว ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง
  • ควรนำผ้ามาปิดตาหรือใช้อุปกรณ์ป้องกันยากระเด็นเข้าใบหน้าขณะทายาตามเส้นผมหรือหนังศีรษะ 
  • ยา Benzyl Alcohol ใช้เฉพาะบริเวณหนังศีรษะและเส้นผมเท่านั้น ผู้ป่วยควรระมัดระวังไม่ให้ยากระเด็นเข้าตาหรือกลืนยา ในกรณีที่ยาโดนดวงตา ควรล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันที หากอาการไม่ดีขึ้น ยังรู้สึกระคายเคืองตา หรือเกิดความผิดปกติอื่น ๆ ควรไปพบแพทย์โดยเร็ว 
  • หากเผลอกลืนยาลงไปควรไปพบแพทย์ทันที เพราะการกลืนยาเกินปริมาณอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย อย่างหมดสติหรือหายใจลำบาก 
  • เก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากความชื้น ความร้อน และแสงแดด ห้ามเก็บยาไว้ในช่องแช่แข็ง โดยเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง รวมถึงปรึกษาวิธีการเก็บรักษาและการกำจัดยาที่ถูกต้องจากแพทย์และเภสัชกร

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Benzyl Alcohol

ยา Benzyl Alcohol อาจส่งผลต่อผิวหนังและดวงตา ทำให้เกิดอาการระคายเคือง คัน แดง รู้สึกเหมือนโดนของแหลมทิ่มหรือชาตามผิวหนัง บางรายอาจเกิดอาการแพ้ที่รุนแรงมาก แต่มักพบได้ยาก เช่น ผื่นคัน อาการบวมโดยเฉพาะใบหน้า ลิ้น และลำคอ เวียนศีรษะอย่างรุนแรง หรือหายใจลำบาก เป็นต้น และหากผู้ป่วยพบผลข้างเคียงหรือความผิดปกติอื่น ๆ ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมต่อไป