Bisacodyl (บิซาโคดิล)

Bisacodyl (บิซาโคดิล)

Bisacodyl (บิซาโคดิล) เป็นยาระบายที่ออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อผนังลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ ทำให้อุจจาระเคลื่อนที่และเกิดการขับถ่ายในที่สุด ใช้เพื่อรักษาอาการท้องผูก โดยแพทย์อาจนำมาใช้ระบายท้องผู้ป่วยก่อนเข้ารับการรักษา เช่น การผ่าตัด การส่องกล้อง การเอกซเรย์ หรือการรักษาอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับลำไส้ เป็นต้น

Bisacodyl

เกี่ยวกับยา Bisacodyl

กลุ่มยา ยาระบาย
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์ ยาหาซื้อได้เอง 
สรรพคุณ รักษาอาการท้องผูก
กลุ่มผู้ป่วย เด็กและผู้ใหญ่
รูปแบบของยา ยารับประทาน ยาเหน็บทวารหนัก

คำเตือนในการใช้ยา Bisacodyl

  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาและอาการแพ้อื่น ๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการใช้ยา
  • ผู้ที่มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ หรืออาเจียน ไม่ควรใช้ยาชนิดนี้
  • ผู้ป่วยสูงอายุควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยา Bisacodyl แบบเหน็บทวารหนัก
  • หากไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ ห้ามใช้ยานี้กับเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี เด็ดขาด

ส่วนผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรืออยู่ในภาวะต่อไปนี้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาทุกครั้ง

  • หญิงมีครรภ์หรือกำลังอยู่ในช่วงให้นมบุตร
  • พฤติกรรมการขับถ่ายเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาหรือนานกว่านั้น
  • ผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบ และโรคอื่น ๆ เกี่ยวกับลำไส้
  • ผู้ป่วยโรคริดสีดวงทวาร หรือมีแผลที่ขอบทวาร
  • ผู้ป่วยโรคการกินผิดปกติ เช่น โรคอะนอเร็กเซียหรือโรคคลั่งผอม (Anorexia) และโรคบูลิเมีย (Bulimia) เป็นต้น
  • ผู้ป่วยที่ไม่สามารถกลืนยาทั้งเม็ดได้ เพราะหากต้องเคี้ยวยาให้ละเอียดก่อนกลืน ผิวเคลือบยาที่แตกอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยาได้
  • ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคเกี่ยวกับอวัยวะภายในช่องท้อง เช่น ลำไส้ฉีกขาดหรือทะลุ

ปริมาณการใช้ยา Bisacodyl

รักษาอาการท้องผูก

ชนิดรับประทาน

  • เด็กอายุ 4-10 ปี รับประทานยา 5 มิลลิกรัม ก่อนนอน
  • ผู้ใหญ่ รับประทานยา 5-10 มิลลิกรัม สูงสุดไม่เกิน 20 มิลลิกรัม ก่อนนอน

ชนิดยาเหน็บทวาร

  • เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ใช้ยาเหน็บทวาร 5 มิลลิกรัม ในตอนเช้า
  • ผู้ใหญ่ ใช้ยาเหน็บทวาร 10 มิลลิกรัม ในตอนเช้า

เตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจลำไส้

  • เด็กอายุ 4-10 ปี รับประทานยา 5 มิลลิกรัม ในคืนก่อนเข้ารับการตรวจ จากนั้น ใช้ยาเหน็บทวาร 5 มิลลิกรัม ในเช้าวันรุ่งขึ้น
  • ผู้ใหญ่ รับประทานยา 10-20 มิลลิกรัม ในคืนก่อนเข้ารับการตรวจ จากนั้น ใช้ยาเหน็บทวาร 10 มิลลิกรัม ในเช้าวันรุ่งขึ้น หรือรับประทานยา 10 มิลลิกรัม ติดต่อกัน 2 คืน ก่อนเข้ารับการตรวจ

การใช้ยา Bisacodyl

  • ก่อนใช้ยา ควรอ่านฉลากยาทุกครั้ง ใช้ยาตามวิธีการและปริมาณที่ระบุไว้บนฉลาก หรือตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ไม่ควรปรับปริมาณยาด้วยตนเอง หรือใช้ยานานเกินกว่าระยะเวลาที่แพทย์แนะนำ เนื่องจากยาอาจทำให้ลำไส้ทำงานผิดปกติ หรืออาจทำให้ลำไส้เคยชินต่อยา จนร่างกายไม่สามารถขับถ่ายเองได้
  • ไม่ควรรับประทานยาลดกรดหรือผลิตภัณฑ์จากนมหลังใช้ยาเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เนื่องจากส่วนประกอบของยาลดกรดหรือนมอาจทำลายสารเคลือบยา อาจทำให้ท้องเสียและปวดท้อง
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานยาชนิดอื่นก่อนหรือหลังใช้ยานี้เป็นเวลา 2 ชั่วโมง และห้ามหัก บด หรือเคี้ยวยา โดยยา Bisacodyl ชนิดรับประทานจะออกฤทธิ์ภายใน 6-12 ชั่วโมง
  • วิธีการใช้ยาเหน็บทางทวารหนัก ให้นอนตะแคงซ้าย งอเข่าขวาขึ้นมาที่หน้าอก แล้วใช้ยาเหน็บสอดเข้าช่องทวารลึกประมาณ 1 นิ้ว ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที ยาเหน็บจะละลาย ผู้ป่วยบางรายอาจรู้สึกมวนท้องเล็กน้อย หรือบางรายอาจไม่รู้สึกเลย โดยยาจะออกฤทธิ์ภายใน 15-60 นาที และไม่ควรใช้ยาเหน็บทวารมากกว่า 1 ครั้งต่อวัน
  • กรณีที่ไม่มีการขับถ่ายอุจจาระภายใน 12 ชั่วโมง หรือมีเลือดออกทางทวารหนักหลังใช้ยา ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณจากปัญหาสุขภาพได้
  • เก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากความร้อน ความชื้น และแสงแดด เพื่อป้องกันยาเสื่อมสภาพ

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Bisacodyl

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Bisacodyl ที่พบได้ทั่วไป ได้แก่ ปวดท้อง ท้องอืด มวนท้อง เวียนศีรษะ รู้สึกแสบที่ช่องทวารหนัก เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรหยุดใช้ยาและรีบไปพบแพทย์ทันที หากเกิดอาการแพ้ยา Bisacodyl เช่น มีผื่นลมพิษ หายใจลำบาก มีอาการบวมที่หน้า ปาก ลิ้น และคอ หรือเกิดผลข้างเคียงที่ค่อนข้างรุนแรงหลังใช้ยา เช่น