Cisplatin (ซิสพลาติน)
Cisplatin (ซิสพลาติน) คือ ยาที่ใช้รักษาโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งรังไข่ มะเร็งอัณฑะ มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น โดยใช้เป็นยาฉีดเข้าทางหลอดเลือด อาจใช้ร่วมกับการรักษาอย่างอื่นเพื่อชะลอหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็ง นอกจากนี้ อาจนำมาใช้รักษาโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์
เกี่ยวกับยา Cisplatin
กลุ่มยา | ยาเคมีบำบัด |
ประเภทยา | ยาตามใบสั่งแพทย์ |
สรรพคุณ | ชะลอหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งบางชนิด |
กลุ่มผู้ป่วย | ผู้ใหญ่ |
รูปแบบของยา | ยาฉีด |
คำเตือนในการใช้ยา Cisplatin
- ผู้ที่แพ้ยาชนิดนี้ แพ้ยาชนิดอื่น แพ้อาหาร หรือแพ้สารใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา เพราะยาอาจมีส่วนผสมของสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้
- แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับประวัติการรักษาหรือปัญหาด้านสุขภาพต่าง ๆ เช่น มีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของไต มีปัญหาเกี่ยวกับการได้ยิน เป็นโรคไขกระดูก เป็นต้น
- ก่อนใช้ยาชนิดนี้ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยา วิตามิน และอาหารเสริมที่กำลังใช้อยู่ เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงขึ้นได้หากใช้ร่วมกัน
- การฉีดวัคซีนบางชนิดในระหว่างที่ใช้ยานี้อาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และอาจทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดวัคซีนทุกครั้ง
- หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ผู้ป่วยโรคติดเชื้อและผู้ที่กำลังรับประทานยาต้านโปลิโอ
- ผู้ป่วยบางรายอาจมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาทอย่างถาวรหลังจากใช้ยาชนิดนี้ ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ให้ดีก่อนใช้ยา
- หากผู้ป่วยเป็นเด็กหรือผู้สูงอายุ อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงมากยิ่งขึ้น
- ยาชนิดนี้อาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้ ดังนั้น สตรีมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา หรือสตรีที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ควรใช้ยาคุมกำเนิดที่มีมาตรฐานร่วมด้วยในระหว่างที่ใช้ยาชนิดนี้หรือหลังจากหยุดใช้ยาไปแล้วระยะหนึ่ง
- ยา Cisplatin อาจเข้าสู่ร่างกายของทารกผ่านทางน้ำนมของมารดาได้ ดังนั้น หากอยู่ในช่วงให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานี้
- ยาชนิดนี้อาจมีผลต่อการสร้างอสุจิในเพศชาย ผู้ป่วยจึงควรใช้ยาคุมกำเนิดสำหรับเพศชายในขณะที่ใช้ยานี้หรือหลังจากหยุดใช้ยาไปแล้วระยะหนึ่ง
ปริมาณในการใช้ยา Cisplatin
ยา Cisplatin มีใช้รูปแบบเดียว คือ ฉีดยาเข้าทางเส้นเลือด โดยปริมาณการใช้ยาจะแตกต่างกันไปตามโรคที่รักษา ดังนี้
มะเร็งรังไข่ระยะแพร่กระจาย
ผู้ใหญ่
- หากใช้ยานี้เพียงอย่างเดียวจะใช้ในปริมาณ 100 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวกาย 1 ตารางเมตร/รอบ ผสมด้วยสารละลายโซเดียมคลอไรด์หรือกลูโคส 0.9 เปอร์เซ็นต์ โดยใช้ตั้งแต่วันแรกของการให้ยาเคมีบำบัด และแต่ละรอบควรห่างกัน 4 สัปดาห์
- หากใช้ร่วมกับไซโคลฟอสต์ฟาไมด์จะใช้ในปริมาณ 75-100 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวกาย 1 ตารางเมตร/รอบ โดยใช้ตั้งแต่วันแรกของการให้ยาเคมีบำบัด และแต่ละรอบควรห่างกัน 4 สัปดาห์
มะเร็งอัณฑะระยะแพร่กระจาย
ผู้ใหญ่
ใช้ยาปริมาณ 20 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวกาย 1 ตารางเมตร ใช้วันละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 5 วัน/รอบ
มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ระยะลุกลาม
ผู้ใหญ่
- ใช้ยาปริมาณ 50-70 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวกาย 1 ตารางเมตร/รอบ แต่ละรอบควรห่างกัน 3-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการรักษาแบบรังสีบำบัดหรือเคมีบำบัด
- สำหรับผู้ป่วยที่อาการหนัก ก่อนรักษาอาจใช้ยาปริมาณ 50 มิลลิกรัม/พื้นที่ผิวกาย 1 ตารางเมตร/รอบ แต่ละรอบควรห่างกัน 4 สัปดาห์
การใช้ยา Cisplatin
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดในขณะที่ใช้ยาชนิดนี้
- แจ้งให้แพทย์ทราบหากใช้ยา Cisplatin อยู่ เพราะแพทย์อาจตรวจการได้ยินทั้งก่อนและระหว่างใช้ยา หรืออาจต้องตรวจเลือดเพิ่มเติม
- หากใช้ยาแล้วอาการไม่ดีขึ้นหรืออาการแย่ลง ให้รีบไปพบแพทย์
- หากรู้สึกไม่อยากอาหาร ปวดท้อง หรือท้องเสียระหว่างที่ใช้ยาชนิดนี้ ควรไปปรึกษาแพทย์
- ควรดื่มน้ำมากขึ้นและหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรือปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการบริโภคเครื่องดื่มและอาหาร
- ระหว่างที่ใช้ยาอาจมีภาวะเลือดออกง่าย ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ เช่น งดเล่นกีฬา เปลี่ยนไปใช้เครื่องโกนหนวดไฟฟ้าแทนมีดโกน เปลี่ยนแปรงสีฟันเป็นแบบนุ่ม เป็นต้น
- ยาชนิดนี้มีผลทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อได้ง่าย จึงควรป้องกันการติดเชื้อด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ล้างมือให้สะอาด ไม่เข้าใกล้ผู้ที่เป็นหวัดหรือเป็นโรคติดต่อ เป็นต้น
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Cisplatin
การใช้ยาชนิดนี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล หรือบางรายก็อาจไม่ปรากฏอาการใด ๆ แต่หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นระหว่างใช้ยา ควรไปปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะหากมีสัญญาณของอาการแพ้ เช่น คัน ไอ หายใจถี่ หน้าบวม เป็นต้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที อีกทั้งยาอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงต่อสมองได้ หากมีอาการสับสน การมองเห็นผิดปกติ ปวดหัวอย่างรุนแรง หรือชัก ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเช่นกัน ส่วนผลข้างเคียงจากการใช้ยาที่พบได้บ่อย คือ มีอาการปวด บวม แสบ หรือระคายเคืองบริเวณที่ถูกฉีดยา รู้สึกเหนื่อย ไม่ค่อยรับรู้รสชาติ หรือผมร่วง
นอกจากนี้ อาจมีผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นได้จากการใช้ยา Cisplatin ดังนี้
- มีอาการของภาวะติดเชื้อ เช่น เป็นไข้ ไอ หนาว แผลไม่หาย ปัสสาวะแล้วรู้สึกเจ็บ เป็นต้น
- มีภาวะขาดแร่ธาตุ โดยมีอาการ เช่น สับสน ปวดกล้ามเนื้อ ท้องเสีย ชัก เป็นต้น
- มีปัญหาในการคิดและพูด มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป
- เหนื่อยและอ่อนเพลียอย่างหนัก
- เวียนหัวอย่างมาก หรืออาจถึงขั้นหมดสติ
- อาเจียน ท้องร่วง
- ผิวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะมีสีเข้ม
- เกิดรอยช้ำตามร่างกาย หรือมีอาการเลือดออกผิดปกติ
- หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว เจ็บหน้าอก
- ได้ยินเสียงดังในหู หรือสูญเสียการได้ยิน
- ร่างกายมีอาการชาหรืออ่อนแรงครึ่งซีก