Enalapril (อีนาลาพริล)
Enalapril (อีนาลาพริล) คือยาต้านเอนไซม์เอซีอี (Angiotensin Converting Enzyme Inhibitors: ACE Inhibitors) ใช้รักษาความดันโลหิตสูงในผู้ใหญ่และเด็กอายุ 1 เดือนขึ้นไป ภาวะหัวใจล้มเหลวในผู้ใหญ่ ทั้งยังใช้ในการรักษาความผิดปกติของหัวใจห้องล่างซ้ายซึ่งทำหน้าที่ส่งเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายด้วยเช่นกัน
Enalapril ใช้ได้ทั้งแบบตัวเดียวและใช้ร่วมกับยาอื่น ๆ เพื่อรักษาความดันโลหิตสูง และภาวะหัวใจวาย ซึ่งช่วยให้การทำงานของหัวใจดียิ่งขึ้น โดยขยายหลอดเลือดจากการยับยั้ง Angiotensin Converting Enzyme ทั้งนี้ ยามีทั้งในรูปแบบรับประทาน (ยาเม็ดและยาน้ำ) และสารละลาย โดยสารละลายมักใช้ในกรณีที่ไม่สามารถรักษาด้วยยารูปแบบรับประทานได้
เกี่ยวกับยา Enalapril
กลุ่มยา | ยาต้านเอนไซม์เอซีอี (ACE Inhibitors) |
ประเภทยา | ยาตามใบสั่งแพทย์ |
สรรพคุณ | รักษาความดันโลหิตสูงและภาวะหัวใจวาย |
กลุ่มผู้ป่วย | เด็กอายุ 1 เดือนขึ้นไปและผู้ใหญ่ |
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์ | Category D จากการศึกษาในมนุษย์ พบความเสี่ยงทำให้เกิดความผิดปกติต่อทารกในครรภ์ จะใช้ก็ต่อเมื่อพิจารณาแล้วว่า ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อมารดาและยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดต่อทารกในครรภ์ โดยมากมักใช้ในกรณีที่จำเป็นในการช่วยชีวิต หรือใช้รักษาโรคร้ายแรงของมารดา ซึ่งไม่สามารถใช้ยาอื่น ๆ ทดแทนได้ |
การใช้ยาในผู้ให้นมบุตร | ยานี้สามารถขับออกผ่านทางนมแม่สู่ทารกได้ ผู้ที่กำลังให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา |
รูปแบบของยา | ยารับประทานและสารละลาย |
คำเตือนในการใช้ยา Enalapril
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา Enalapril ผู้ป่วยควรระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้
- ผู้มีประวัติแพ้ยานี้หรือยาต้านเอนไซม์ ACE อื่น ๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคตับ โรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับหัวใจ หรือมีภาวะความดันโลหิตต่ำ เซลล์เม็ดเลือดขาวต่ำ รวมถึงมีอาการปวดท้องและอยู่ในช่วงรับประทานอาหารที่มีเกลือน้อย ควรบอกแพทย์ก่อนใช้ยาทุกครั้ง
- ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร กรณีตั้งครรภ์ภายหลังการใช้ยา ควรหยุดใช้และแจ้งแพทย์ทันที เนื่องจากยาอาจทำร้ายทารกในครรภ์จนเสียชีวิตได้
- ผู้ป่วยที่มีโรคลมพิษแบบแองจิโออีดีมา (Angioedema) ซึ่งคืออาการบวมภายใต้ผิวหนังอ่อนโดยเฉพาะหนังตาและริมฝีปาก ไม่ควรใช้ยานี้
- ผู้ป่วยโรคเบาหวานไม่ควรใช้ยานี้ร่วมกับยาที่มีส่วนผสมของยาอะลิสคิเรน (Aliskiren) เช่น ยา Amturnide, Tekturna, Tekamlo และ Valturna
- ไม่ควรใช้ยานี้ภายใน 36 ชั่วโมง ก่อนหรือหลังรับประทานยาที่มีส่วนผสมของ sacubitril
- Enalapril อาจส่งผลกระทบต่อไต หัวใจ และระดับอิเล็กโทรไลต์ (Electrolyte) ในร่างกาย ซึ่งทำให้เกิดอาการบวมอักเสบตามร่างกาย ปัสสาวะน้อย น้ำหนักขึ้นเร็ว หายใจติดขัด เจ็บหน้าอก หัวใจเต้นแรง ชีพจรลดหรืออ่อนลง รู้สึกอ่อนแรง หากผู้ป่วยมีอาการเหล่านี้ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
- ควรปรึกษาแพทย์หากมีการใช้สารทดแทนเกลือ (Salt Substitutes) หรืออาหารเสริมที่มีส่วนผสมของโพแทสเซียมและควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ปริมาณการใช้ยา Enalapril
ปริมาณการใช้ยา Enalapril อาจแตกต่างกันไปตามดุลยพินิจของแพทย์ โดยตัวอย่างปริมาณการใช้ยาสามารถแบ่งเป็นรูปแบบยารับประทานและสารละลาย เช่น
ยารับประทาน
ตัวอย่างปริมาณการใช้ยา Enalapril ในรูปแบบรับประทาน เช่น
ความดันโลหิตสูง
ผู้ใหญ่ ปริมาณเริ่มต้น 5 มิลลิกรัม รับประทาน 1 ครั้งต่อวัน โดยอาจเพิ่มปริมาณเป็น 10—40 มิลลิกรัม ต่อวัน ตามดุลยพินิจของแพทย์ แต่ปริมาณสูงสุดมักจะไม่เกิน 40 มิลลิกรัม และสามารถรับประทาน 1 ครั้งต่อวัน หรือแบ่งเป็น 2 ครั้งต่อวัน
กรณีใช้ร่วมกับยาขับปัสสาวะ (Diuretics) ปริมาณเริ่มต้น 2.5 มิลลิกรัม รับประทาน 1 ครั้งต่อวัน ควรหยุดใช้ยาขับปัสสาวะ 2—3 วันก่อนเริ่มใช้ Enalapril
เด็กอายุ 1 เดือนหรือมากกว่า ปริมาณเริ่มต้น 0.8 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักมวลรวม แบ่งรับประทาน 1—2 ครั้ง ต่อวัน และไม่เกิน 0.58 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักมวลรวม หรือไม่มากกว่า 40 มิลลิกรัมต่อวัน
ทั้งนี้ ปริมาณยาอาจปรับเปลี่ยนได้ตามการตอบสนองของผู้ป่วย และไม่ควรใช้ยาในทารกแรกเกิดและผู้ป่วยเด็กที่มีอัตราการกรองไต (Glomerular Filtration Rate) ต่ำกว่า 30 มิลลิลิตรต่อนาที
ภาวะหัวใจล้มเหลว
ผู้ใหญ่ ปริมาณเริ่มต้น 2.5 มิลลิกรัม รับประทาน 1 ครั้งต่อวัน โดยอาจเพิ่มปริมาณต่อเนื่อง 2.5—20 มิลลิกรัม แบ่งรับประทาน 2 ครั้ง โดยปริมาณสูงสุดต่อวันคือ 40 มิลลิกรัม และแบ่งรับประทาน 2 ครั้ง
ทั้งนี้ ปริมาณยาอาจเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาและปริมาณที่ผู้ป่วยสามารถรับได้ และแพทย์มักใช้ยานี้รักษาร่วมกับยาขับปัสสาวะและยาดิจิตาลิส (Digitalis)
ความผิดปกติของหัวใจห้องล่างซ้าย (Left Ventricular Dysfunction)
ผู้ใหญ่ ปริมาณเริ่มต้น 2.5 มิลลิกรัม รับประทาน 2 ครั้งต่อวัน โดยอาจเพิ่มปริมาณต่อเนื่อง 20 มิลลิกรัม แบ่งรับประทาน 2 ครั้งต่อวัน
ทั้งนี้ ผู้ป่วยควรลดปริมาณยาขับปัสสาวะลง เพราะอาจทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำได้
ภายหลังผู้ป่วยรับประทานยาเป็นเวลา 2 ชั่วโมง จะเริ่มเห็นการตอบสนองต่อยา แพทย์ควรสังเกตอาการผู้ป่วยจนกว่าระดับความดันโลหิตจะคงที่ โดยควรใช้เวลาสังเกตอาการอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
สารละลาย
ตัวอย่างการใช้ยา Enalapril ในรูปแบบสารละลาย เช่น
ความดันโลหิตสูง
ฉีดสารละลายเข้าหลอดเลือดปริมาณ 1.25—5 มิลลิกรัม เป็นเวลา 5 นาที ทุก ๆ 6 ชั่วโมง โดยการตอบสนองทางการรักษามักเกิดขึ้นภายใน 15 นาทีหลังการฉีดสารละลาย
การใช้ยา Enalapril
ควรใช้ยา Enalapril ตามคำแนะนำของแพทย์หรือฉลากยาอย่างเคร่งครัด การเปลี่ยนแปลงปริมาณยาอาจช่วยให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้น ห้ามผู้ป่วยลดหรือเพิ่มปริมาณยา รวมถึงระยะเวลาในการใช้ยานอกเหนือจากที่แพทย์แนะนำ
การใช้ยา Enalapril รูปแบบยาน้ำ ควรใช้ช้อนตวง ถ้วยใส่ยา หรือกระบอกฉีดยา ในการวัดปริมาณยา และไม่ควรใช้ช้อนสำหรับรับประทานอาหาร
กรณีลืมรับประทานยา ควรรับประทานทันทีเมื่อนึกได้ แต่หากใกล้เวลาต้องรับประทานยาในรอบถัดไป ให้ข้ามไปรับประทานยาตามเวลาปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่าและสามารถรับประทานร่วมกับอาหารได้
กรณีจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด ควรแจ้งศัลยแพทย์ล่วงหน้าว่ากำลังใช้ยานี้ ซึ่งอาจมีความจำเป็นต้องงดใช้ยาชั่วคราว นอกจากนี้ ผู้ป่วยควรเข้ารับการตรวจเป็นประจำ เพื่อตรวจดูการทำงานของตับและไต ทั้งนี้ Enalapril อาจทำให้ความดันโลหิตต่ำลงเช่นกัน จึงควรแจ้งให้แพทย์ทราบ หากผู้ป่วยมีอาการเหงื่อออกมากกว่าปกติ อาเจียนหรือท้องเสีย
ห้ามใช้สารทดแทนเกลือหรือโพแทสเซียมเสริมขณะใช้ยานี้ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ และควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจเพิ่มโอกาสในการเกิดผลข้างเคียงจากยามากขึ้น โดยเครื่องดื่มและปริมาณที่ควรดื่มนั้น ควรเลือกดื่มตามคำแนะนำของแพทย์ นอกจากนี้ ไม่ควรเปลี่ยนอิริยาบถจากการนั่งหรือนอนอย่างรวดเร็ว เนื่องจากอาจเกิดอาการมึนงงจากการใช้ยาได้
ควรเก็บยาไว้ในอุณหภูมิห้องให้ห่างจากความชื้นและความร้อน สำหรับยาน้ำ ควรปิดขวดให้สนิทและเก็บไว้ในตู้เย็น โดยไม่ควรแช่ไว้ในช่องแช่แข็ง และทิ้งยาหลังจากเปิดขวด 60 วัน
ปฏิกิริยาระหว่างยา Enalapril กับยาอื่น
ยาที่ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบและใช้อย่างระมัดระวังเมื่อใช้ร่วมกับ Enalapril เช่น
- ยารักษาโรคหัวใจและความดันโลหิต
- ยาขับปัสสาวะ (Diuretic) เช่น สไปโรโนแลคโตน (spironolactone) และ อะมิโลไรด์ (amiloride)
- ยารักษาโรคข้ออักเสบ (Gold Injections)
- ยากดภูมิต้านทานขณะปลูกถ่ายอวัยวะ เช่น Everolimus, Sirolimus, Temsirolimus
- ยาลดการอักเสบ (NSAIDs) เช่น แอสไพริน (Aspirin), อินโดเมทาซิน (Indomethacin) นาพรอกเซน (Naproxen-Aleve) ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) ไดโคลฟีแนค (Diclofenac) เป็นต้น
ยา Enalapril ยังอาจทำปฏิกิริยากับยาอื่น ๆ ได้ ดังนั้นจึงควรแจ้งแพทย์ทุกครั้งหากกำลังใช้ยาตัวอื่น ๆ อยู่ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงจากการใช้ยา
ผลข้างเคียงของยา Enalapril
ยา Enalapril อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่
ผลข้างเคียงที่พบและควรไปพบแพทย์ ได้แก่
- หัวใจเต้นแรง
- เวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลม
- เม็ดเลือดขาวต่ำลง อาจพบอาการอักเสบหรือติดเชื้อ เช่น เจ็บช่องปากขณะกลืนอาหาร รู้สึกเหนื่อยหรืออ่อนล้า รู้สึกหนาว มีไข้ ไอ หรือมีอาการคล้ายไข้หวัด หายใจลำบาก หรือติดขัด
- ความผิดปกติของไต อาจพบปัสสาวะน้อย เจ็บปวดขณะปัสสาวะหรือปัสสาวะลำบาก บวมที่เท้าหรือข้อเท้า เหนื่อย หายใจลำบาก
นอกจากนี้ หากมีอาการแพ้ยา Enalapril เช่น ผื่น ปวดท้องรุนแรง มีการบวมที่ใบหน้า ปาก ลิ้น และมีอาการหายใจลำบาก ให้ไปพบแพทย์ในทันที