Eslicarbazepine (เอสลิคาร์บาซีพีน)

Eslicarbazepine (เอสลิคาร์บาซีพีน)

Eslicarbazepine (เอสลิคาร์บาซีพีน) เป็นยากันชักที่ช่วยลดกระแสประสาทซึ่งเป็นสาเหตุของอาการชักและอาการปวด โดยอาจใช้ยาเพียงตัวเดียวหรือใช้ร่วมกับยาชนิดอื่นในการรักษาอาการชักเฉพาะที่ในผู้ใหญ่และเด็กอายุ 4 ปี ขึ้นไป และใช้รักษาโรคลมชัก หรืออาจใช้รักษาโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์ด้วย

1737 Eslicarbazepine rs

ยา Eslicarbazepine มีข้อห้ามใช้และอาจเกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้น การใช้ยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรเสมอ

เกี่ยวกับยา Eslicarbazepine

กลุ่มยา ยากันชัก
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ รักษาอาการชักเฉพาะที่ และโรคลมชัก
กลุ่มผู้ป่วย เด็ก ผู้ใหญ่
รูปแบบของยา ยารับประทาน

คำเตือนในการใช้ยา Eslicarbazepine

  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยาหากมีประวัติแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยาชนิดนี้ และแพ้ยาชนิดอื่น โดยเฉพาะยาออกคาร์บาซีปีน อาหาร หรือสารใด ๆ
  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา หากเป็นโรคไต โรคตับ เซลล์เม็ดเลือดผิดปกติ มีปัญหาทางอารมณ์ หรือมีความคิดฆ่าตัวตาย
  • การใช้ยาต้านชักอาจมีผลทำให้ผู้ป่วยมีความคิดฆ่าตัวตาย โดยปกติแพทย์จะตรวจสอบภาวะดังกล่าวระหว่างที่ผู้ป่วยเริ่มใช้ยา รวมถึงสมาชิกในครอบครัวหรือผู้ให้การดูแลจะต้องคอยสังเกตการเปลี่ยนแปลงของอาการและอารมณ์ของผู้ป่วยในระหว่างที่ใช้ยา
  • ห้ามเริ่มหรือหยุดใช้ยาระหว่างที่ตั้งครรภ์โดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะหากเกิดอาการชักอาจเป็นอันตรายต่อทั้งตัวคุณแม่และทารกในครรภ์
  • หากตั้งครรภ์ระหว่างที่ใช้ยา ให้ไปพบแพทย์ทันที
  • ผู้ที่กำลังให้นมบุตรต้องหลีกเลี่ยงการให้นมบุตรในช่วงที่กำลังใช้ยานี้ เนื่องจากยาสามารถส่งผ่านทางน้ำนมและเป็นอันตรายต่อเด็กได้
  • ห้ามใช้ยานี้ในเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
  • ยานี้อาจทำให้ยาคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพลดลง ผู้ป่วยจึงควรปรึกษาแพทย์ถึงการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นที่ไม่ใช่ฮอร์โมนร่วมด้วยในระหว่างที่ใช้ยานี้
  • หลีกเลี่ยงการขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักร จนกว่าจะแน่ใจว่ายาไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย เพราะยาอาจทำให้การคิดหรือการตอบสนองของร่างกายด้อยประสิทธิภาพลง

ปริมาณการใช้ยา Eslicarbazepine

ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยา ดังนี้

รักษาอาการชัก และโรคลมชัก

ผู้ใหญ่

  • รับประทานยาเริ่มต้น 400 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง ผู้ป่วยบางรายอาจเริ่มใช้ยาปริมาณ 800 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง ในกรณีที่ยาช่วยลดอาการมากกว่าก่อให้เกิดผลข้างเคียงจากยา ทั้งนี้ อาจปรับปริมาณยาจาก 400 ไปจนถึง 600 มิลลิกรัม/สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อยาและความทนต่อผลข้างเคียงของยา
  • สำหรับควบคุมอาการในผู้ป่วยที่รักษาโดยใช้ยาชนิดเดียว ให้รับประทานยาปริมาณ 800-1,600 มิลลิกรัม/วัน และอาจใช้ยาปริมาณ 800 มิลลิกรัม/วัน ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถทนต่อยาปริมาณ 1,200 มิลลิกรัม/วันได้
  • สำหรับผู้ป่วยที่ใช้ยาเป็นการรักษาเสริม อาจต้องรับประทานยาปริมาณ 1,600 มิลลิกรัม/วัน ในกรณีที่ไม่ตอบสนองต่อยาปริมาณ 1,200 มิลลิกรัม/วัน

เด็กอายุ 4-18 ปี  

  • น้ำหนักตัว 11-21 กิโลกรัม ให้รับประทานยาเริ่มต้น 200 มิลลิกรัม/วัน โดยเพิ่มปริมาณไม่เกิน 200 มิลลิกรัม/สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อยาและความทนต่อผลข้างเคียงของยา สำหรับควบคุมอาการ ให้รับประทานยา 400-600 มิลลิกรัม/วัน ปริมาณสูงสุดไม่เกิน 600 มิลลิกรัม/วัน
  • น้ำหนักตัว 22-31 กิโลกรัม ให้รับประทานยาเริ่มต้น 300 มิลลิกรัม/วัน โดยเพิ่มปริมาณไม่เกิน 300 มิลลิกรัม/สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อยาและความทนต่อยา สำหรับควบคุมอาการ ให้รับประทานยาปริมาณ 500-800 มิลลิกรัม/วัน ปริมาณสูงสุดไม่เกิน 800 มิลลิกรัม/วัน
  • น้ำหนักตัว 32-38 กิโลกรัม ให้รับประทานยาเริ่มต้น 300 มิลลิกรัม/วัน โดยเพิ่มปริมาณไม่เกิน 300 มิลลิกรัม/สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อยาและความทนต่อยา สำหรับควบคุมอาการ ให้รับประทานยาปริมาณ 600-900 มิลลิกรัม/วัน ปริมาณสูงสุดไม่เกิน 900 มิลลิกรัม/วัน
  • น้ำหนักตัว 38 กิโลกรัมขึ้นไป ให้รับประทานยาเริ่มต้น 400 มิลลิกรัม/วัน โดยเพิ่มปริมาณไม่เกิน 400 มิลลิกรัม/สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อยาและความทนต่อยา สำหรับควบคุมอาการ ให้รับประทานยาปริมาณ 800-1,200 มิลลิกรัม/วัน ปริมาณสูงสุดไม่เกิน 1,200 มิลลิกรัม/วัน

การใช้ยา Eslicarbazepine

  • ใช้ยาตามฉลากและตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ใช้ยาในปริมาณมากกว่า น้อยกว่า หรือติดต่อกันนานกว่าที่แพทย์แนะนำ หากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ
  • สามารถรับประทานยา Eslicarbazepine พร้อมหรือไม่พร้อมอาหารก็ได้ โดยอาจนำยาชนิดเม็ดมาบดหรือกลืนทั้งเม็ด
  • ห้ามหยุดใช้ยาอย่างกะทันหันแม้อาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม เพราะอาจทำให้อาการชักแย่ลงได้
  • แจ้งให้แพทย์หรือผู้ตรวจทางห้องปฏิบัติการทราบว่ากำลังใช้ยานี้ เพราะยาอาจส่งผลให้การตรวจบางชนิดคลาดเคลื่อนได้
  • หากลืมใช้ยาตามเวลาที่กำหนด ให้ใช้ยาทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่หากใกล้ถึงเวลาใช้ยาในรอบถัดไป ให้ข้ามไปใช้ยารอบต่อไป ห้ามเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
  • หากสงสัยว่าตนใช้ยาเกินกว่าปริมาณที่กำหนด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
  • เก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากความร้อน แสงแดด และความชื้น

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Eslicarbazepine

การใช้ยา Eslicarbazepine อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย เช่น ง่วงซึม เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ เหนื่อย คลื่นไส้ อาเจียน สั่น การประสานงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายผิดปกติ และเห็นภาพซ้อน เป็นต้น แต่หากพบผลข้างเคียงที่รุนแรงหรือมีอาการแพ้ยา ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เช่น

  • อาการแพ้ยา เช่น ลมพิษ หายใจลำบาก หน้าบวม และคอบวม เป็นต้น
  • มีอาการแพ้ทางผิวหนังอย่างรุนแรง มีไข้ เจ็บคอ แสบตา เจ็บผิว มีผื่นคันสีม่วงหรือแดงที่กระจายตามร่างกาย ซึ่งอาจทำให้เกิดแผลพุพองและผิวลอก
  • อ่อนแรงอย่างกะทันหัน รู้สึกไม่สบาย มีไข้ หนาวสั่น เจ็บคอ มีแผลในปาก
  • เวียนศีรษะหรือง่วงซึมอย่างรุนแรง การมองเห็นเปลี่ยนแปลง การคิดผิดปกติ การประสานงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายหรือการเดินผิดปกติ
  • เกิดผลข้างเคียงต่ออวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งอาจทำให้มีอาการบางอย่าง เช่น มีไข้ มีผื่นคัน ต่อมน้ำเหลืองบวม มีอาการคล้ายไข้หวัด ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลียรุนแรง เกิดรอยช้ำผิดปกติ ตัวเหลืองตาเหลือง เป็นต้น โดยอาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นติดต่อกันหลายสัปดาห์หลังใช้ยา
  • อารมณ์หรือพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป มีภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล กระวนกระวาย กระสับกระส่าย ไม่มีสมาธิ มีความคิดเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายหรือทำร้ายตัวเอง
  • ตับผิดปกติ ซึ่งอาจมีอาการ เช่น ไม่อยากอาหาร คลื่นไส้ ปวดท้องส่วนบน ตัวเหลืองตาเหลือง ปัสสาวะมีสีเข้ม เป็นต้น
  • ระดับโซเดียมในร่างกายต่ำ ซึ่งอาจทำให้เกลือแร่ในร่างกายขาดสมดุล และอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ โดยอาจทำให้มีอาการบางอย่าง เช่น คลื่นไส้ ไม่มีแรง สับสน หงุดหงิด เหนื่อย อ่อนเพลียอย่างรุนแรง เจ็บกล้ามเนื้อ และมีอาการชักที่มากขึ้น เป็นต้น

นอกจากนี้ หากผู้ป่วยพบอาการผิดปกติใด ๆ เพิ่มเติม ควรแจ้งให้แพทย์ทราบด้วยเช่นกัน