Flunarizine (ฟลูนาริซีน)

Flunarizine (ฟลูนาริซีน)

Flunarizine (ฟลูนาริซีน) เป็นยาในกลุ่มยาต้านไมเกรน ใช้เพื่อป้องกันโรคไมเกรนและบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ โดยตัวยาจะออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือดในสมองและปรับระดับสารสื่อประสาทบางชนิดในสมองทำให้สามารถบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ รวมถึงลดความรุนแรงและความถี่ในการเกิดโรคไมเกรนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ยา Flunarizine อาจไม่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง ดังนั้นผู้ที่มีเงื่อนไขสุขภาพเหล่านี้จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามมา

Flunarizine

เกี่ยวกับยา Flunarizine

กลุ่มยา ยาต้านไมเกรน (Antimigraine Preparations)
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ ป้องกันโรคไมเกรน บรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ
กลุ่มผู้ป่วย ผู้ใหญ่
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์และผู้ให้นมบุตร Category C จากการศึกษาในสัตว์พบว่า ทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์สัตว์ แต่ไม่มีการศึกษาในมนุษย์ หรือไม่มีข้อมูลเพียงพอในการศึกษาทดลองในมนุษย์และสัตว์ ควรใช้ยาเมื่อพิจารณาแล้วว่ามีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อทารกในครรภ์ รวมถึงผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา เพราะยังไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าสามารถใช้ได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเด็กทารกที่รับประทานนมแม่
รูปแบบของยา ยารับประทาน

คำเตือนการใช้ยา Flunarizine

เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้ยา ผู้ใช้ยาควรระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาทุกชนิดควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการใช้ยา และหากมีประวัติแพ้ยา Flunarizine ห้ามใช้ยาชนิดนี้
  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยาชนิดนี้ เพราะยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าสามารถใช้ยาได้อย่างปลอดภัย
  • ผู้สูงอายุควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยาชนิดนี้ เพระาตัวยาอาจส่งผลให้การเคลื่อนไหวผิดปกติได้
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคตับ โรคเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว โรคพาร์กินสัน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคต้อหิน โรคลมชัก หรือภาวะซึมเศร้า ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยา เพราะตัวยาอาจส่งผลกระทบต่อโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ได้
  • การใช้ยา Flunarizine อาจกระตุ้นให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ หากเริ่มมีอาการของภาวะซึมเศร้าควรปรึกษาแพทย์
  • การใช้ยา Flunarizine อาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม จึงควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะ หรือการทำงานกับเครื่องจักรต่าง ๆ ที่เสี่ยงอันตรายหลังการรับประทานยา
  • ในขณะที่ใช้ยา Flunarizine ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ปริมาณการใช้ยา Flunarizine

ปริมาณการใช้ยา Flunarizine จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยตัวอย่างการใช้ยามีดังนี้

โรคไมเกรน

ตัวอย่างการใช้ยา Flunarizine เพื่อป้องกันการเกิดโรคไมเกรน 

ผู้ใหญ่ รับประทานยาประมาณ 5–10 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้งก่อนนอน

การใช้ยา Flunarizine

การใช้ยา Flunarizine ควรใช้ตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยแพทย์อาจให้รับประทานยาวันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน ต่อเนื่องเป็นเวลา 6–8 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยไม่ควรใช้ยาในปริมาณมาณมากกว่าหรือน้อยกว่าที่แพทย์กำหนด รวมถึงไม่ควรใช้ยาในระยะเวลานานกว่าที่แพทย์กำหนด หรือหยุดใช้ยาเองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ด้วย

ยาฟลูนาริซีนสามารถรับประทานร่วมกับมื้ออาหารหรือไม่ก็ได้ ในกรณีที่ลืมรับประทานยาควรรีบรับประทานทันทีเมื่อทราบ แต่หากใกล้เวลารับประทานยาครั้งถัดไป ให้ข้ามไปรับประทานยาของครั้งถัดไปแทน ไม่ควรเพิ่มปริมาณยาเป็นสองเท่า ส่วนการเก็บรักษายาควรเก็บในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส รวมถึงเก็บให้ห่างจากความร้อนและความชื้นเพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสื่อมสภาพด้วย

ปฏิกิริยาระหว่างยา Flunarizine กับยาอื่น

ยา Flunarizine อาจทำปฏิกิริยากับยา วิตามิน หรือสมุนไพรบางชนิด ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงหรือทำให้ยามีประสิทธิภาพลดลง โดยเฉพาะยาต่อไปนี้

  • กลุ่มยาที่ออกฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง เช่น ยาคลายกล้ามเนื้อ หรือยาระงับประสาท เพราะตัวยาจะเพิ่มฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลางมากขึ้น
  • ยาลดความดันโลหิต เพราะอาจเพิ่มฤทธิ์ของยา และส่งผลให้ความดันโลหิตต่ำมากเกินไปจนเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
  • ยาคุมกำเนิด เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะน้ำนมไหล (Galactorrhea)

ตัวอย่างยาดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่อาจทำปฏิกิริยากับยาฟลูนาริซีนเท่านั้น หากผู้ป่วยกำลังใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ อยู่ ควรแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบก่อนเสมอ เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Flunarizine 

การใช้ยา Flunarizine ซีนอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ โดยผลข้างเคียงที่มักพบได้จะแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้

  • ผลข้างเคียงเกี่ยวกับระบบผิวหนัง เช่น มีผื่นขึ้นตามผิวหนัง
  • ผลข้างเคียงเกี่ยวกับระบบกล้ามเนื้อและกระดูก เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดหรือเจ็บกล้ามเนื้อ
  • ผลข้างเคียงเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง แสบร้อนกลางอก มีอาการปากแห้ง หรือมีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น
  • ผลข้างเคียงเกี่ยวกับระบบต่อมไร้ท่อและการเผาผลาญ เช่น น้ำหนักขึ้น ในเพศหญิงอาจมีอาการน้ำนมไหลหรือประจำเดือนมาไม่ปกติ 
  • ผลข้างเคียงเกี่ยวกับระบบประสาทส่วนกลาง เช่น ง่วงนอน อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ บ้านหมุน วิตกกังวล หรือเกิดปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ

หากอาการเหล่านี้รุนแรงขึ้นจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันควรปรึกษาแพทย์ และหากมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ที่รุนแรงเกิดขึ้น เช่น มีอาการสั่นโดยไม่ทราบสาเหตุ ขยับร่างกายได้ลำบาก ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของใบหน้าหรือปากได้ และมีอาการของภาวะซึมเศร้า ควรไปพบแพทย์ทันที